“….ในอดีต ตัวขับเคลื่อนสังคมไปสู่ระดับใหม่ เพื่อเปิดทางให้แก่พลังการผลิตคุณภาพใหม่ ในการสร้างอารยธรรมใหม่ขึ้นบนผิวโลก ก็คือการปฏิวัติสังคม คือปฏิวัติล้มล้างระบบระบอบการปกครองเก่าลงไปแล้วสถาปนาระบบระบอบการปกครองแบบใหม่ขึ้นมาแทนที่ เป็นวิธีปฏิบัติทั่วไปในการขับเคลื่อนสังคมไปสู่อนาคตที่ดีกว่า นี่คือสัจธรรมทั่วไปที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ ณ วันนี้ ถ้าเราต้องการพัฒนาประเทศไปให้ดี เราต้องไม่พูดถึงความขัดแย้งและการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้อง”ล้าง” ความคิดปฏิวัติล้มล้างออกจากหัว แล้วร่วมกันทุกฝ่ายที่ยืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์ ลงมือสร้างระบบนิเวศทางการเมืองทที่เข้มแข็ง สาระสำคัญก็คือ การให้ได้มาซึ่งคณะผู้นำการบริหารประเทศที่เก่งกาจสามารถจริงๆ มีระบบกลไกที่สามารถสนองตอบแนวนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกองทัพบุคลากรคุณภาพสูงทำหน้าที่ขับเคลื่อนในทุกระดับ เมื่อนั้น ประเทศก็จะเดินหน้าสู่อนาคตอย่างสดใสแบบไร้กังวล…”

ทำไมต้องเป็นระบบนิเวศทางการเมืองที่เข้มแข็ง为何必须是健康的政治生态体系
บทนี้ ผู้เขียนจะขอพาท่านผู้อ่านติดปีกความคิด โบยบินไปสู่โลกที่กว้างขึ้น หลุดจากกรอบความคิดเก่าๆที่ดำรงอยู่ทุกวี่วัน
โดยสาระก็คือ ผู้เขียนจะขอใช้กรอบความคิดความเข้าใจใน”ระบบนิเวศ” มาอธิบายว่า สังคมโลกของเรากำลังขับเคลื่อนไปสู่อนาคตด้วยสิ่งใด
ในอดีต ตัวขับเคลื่อนสังคมไปสู่ระดับใหม่ เพื่อเปิดทางให้แก่พลังการผลิตคุณภาพใหม่ ในการสร้างอารยธรรมใหม่ขึ้นบนผิวโลก ก็คือการปฏิวัติสังคม โดยสาระก็คือปฏิวัติล้มล้างระบบระบอบการปกครองเก่าลงไปแล้วสถาปนาระบบระบอบการปกครองแบบใหม่ขึ้นมาแทนที่
การปฏิวัติล้มล้างทางการเมืองจึงเป็นวิธีปฏิบัติทั่วไปในการขับเคลื่อนสังคมไปสู่อนาคตที่ดีกว่า
นี่คือสัจธรรมทั่วไปที่ไม่มีใครปฏิเสธได้
อย่างไรก็ดี กระบวนการเปลี่ยนแปลงด้วยรูปแบบล้มล้างปฏิวัตินี้ ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้ในสภาพสังคมปัจจุบัน เพราะที่ใดเกิดความขัดแย้งรุนแรง บ้านเมืองสับสนป่นปี้จากการห้ำหั่นกันของคนในชาติ ประเทศนั้นก็จะตกที่นั่งลำบาก เป็นที่สมเพชเวทนาของคนทั้งโลก
เพราะความแตกแยกในชาติ ทำให้เสียโอกาสในการพัฒนาตนเอง แม้แต่คนที่อยากช่วยก็จนใจ
ทางที่ดีที่สุด สอดคล้องกับกฎเกณฑ์การพัฒนาของประวัติศาสตร์ขั้นปัจจุบันที่สุดก็คือการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบการปกครอง กลไกการบริหารจัดการและการพัฒนาบุคลากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ก่อนอื่นใด จะต้องร่วมกันทุกฝ่ายที่ตื่นรู้ในสัจธรรมยุคใหม่ที่ว่า จะต้องพากันมายืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์โลกยุคปัจจุบันที่กำหนดว่า ใครมีความก้าวหน้ากว่าทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี มีความโปร่งใสในการบริหารจัดการ ก็จะพัฒนาไปได้ดีกว่าในทุกๆด้าน
ตรงนี้เข้าทางการใช้กรอบวิธีคิดแบบ”ระบบนิเวศทางการเมือง” ของเราพอดี!
ณ วันนี้ ถ้าเราต้องการพัฒนาประเทศไปให้ดี เราต้องไม่พูดถึงความขัดแย้งและการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้อง”ล้าง” ความคิดปฏิวัติล้มล้างออกจากหัว แล้วร่วมกันทุกฝ่ายที่ยืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์ ลงมือสร้างระบบนิเวศทางการเมืองทที่เข้มแข็ง
โดยสาระสำคัญก็คือ การให้ได้มาซึ่งคณะผู้นำการบริหารประเทศที่เก่งกาจสามารถจริงๆ มีระบบกลไกที่สามารถสนองตอบแนวนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกองทัพบุคลากรคุณภาพสูงทำหน้าที่ขับเคลื่อนในทุกระดับ
เมื่อทุกฝ่ายเล็งเป้าไปที่เดียวกัน ด้วยมติเอกฉันท์ และได้รับเสียงไชโยโห่ฮิ้วสนับสนุนของมวลชน เมื่อนั้น ประเทศก็จะเดินหน้าสู่อนาคตอย่างสดใสแบบไร้กังวล
เพราะประวัติศาสตร์จะไม่ทิ้งเราไว้ข้างหลังใครอีกแล้ว!
ไขคำจีน
健康 เจี้ยนคัง เข้มแข็ง แข็งแรง



