วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกการเมือง"สนธิญา" ร้อง กกต.ยุบพรรคเพื่อไทย หลัง "ชลน่าน" โว อดีตวีรศักดิ์ -อบจ.โคราช ผนึกกำลังแลนสไลด์ พร้อมสอบ "ณัฐวุฒิ" ถูกตัดสิทธิทางการเมืองแต่ได้ร่วมกิจกรรมต่างๆในพรรค

Related Posts

“สนธิญา” ร้อง กกต.ยุบพรรคเพื่อไทย หลัง “ชลน่าน” โว อดีตวีรศักดิ์ -อบจ.โคราช ผนึกกำลังแลนสไลด์ พร้อมสอบ “ณัฐวุฒิ” ถูกตัดสิทธิทางการเมืองแต่ได้ร่วมกิจกรรมต่างๆในพรรค

กกต. วันนี้ ( 7 มี.ค.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นคำร้องต่อ กกต. ให้ตรวจสอบกรณีพรรคเพื่อไทยแต่งตั้งให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งถูกศาลฎีกาพิพากษา จำคุก 2 ปี 8 เดือน และถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี ในคดีปิดล้อมบ้านพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เข้าดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในพรรคเพื่อไทย โดยนายสนธิญา กล่าวว่า นายณัฐวุฒิ ซึ่งถูกตัดสิทธิทางการเมือง ได้มีการขึ้นปราศรัยในเวทีของพรรคเพื่อไทย สนับสนุนผู้สมัคร และเปิดเผยนโยบายของพรรค ด้อยค่าบุคคลอื่นแม้กระทั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่สบาย ก็นำขึ้นไปกล่าวบนเวที

ซึ่งการที่พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้นายณัฐวุฒิ มีส่วนร่วมในเวทีต่างๆ ของพรรค จึงเป็นการกระทำที่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 258 (2) ที่ระบุว่าการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองต้องมีความรับผิดชอบอย่างแท้จริงในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองและการคัดเลือกผู้มีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรมจริยธรรมเข้ามาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะฉะนั้นกรณีการที่นายณัฐวุฒิ ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ไม่มีสิทธิที่จะลงคะแนนเลือกตั้ง แล้วมีสิทธิอะไรขึ้นไปเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง

นายสนธิญา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนยังได้ยื่นคำร้องกรณีที่นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในการปราศรัยใหญ่ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2566 โดยระบุว่า “นี่คือปรากฎการใหม่ของการเมืองที่มีอดีตรัฐมนตรีช่วยวีรศักดิ์ (นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม) มีองค์การบริหารส่วนจังหวัดจ.นครราชสีมา และมีพรรคเพื่อไทย รวมเป็นแกนเดียวกัน จะนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งแบบแลนสไลด์” ซึ่งปัญหาคือการที่ นพ.ชลน่าน ระบุเช่นนี้ นายวีรศักดิ์ และอบจ.นครราชสีมา เป็นสมาชิกของพรรเพื่อไทยหรือไม่ โดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 ระบุว่าห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองพรรคการเมือง และกฎหมายเดียวกันใน มาตรา 29 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ดังนั้นการกระทำดังกล่าวสามารถนำไปสู่การดำเนินการสั่งยุบพรรคกาาเมืองตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92(3) ได้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts