“…แม้ว่า นายวัชระ เพชรทอง จะทำหนังสือติดตามทวงถามไปยัง ป.ป.ช. หลายรอบ และ ป.ป.ช.เองก็ยันยันว่ามีหนังสือเห็นชอบตามคำพิพากษาของศาลไปยังกระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่ทุกอย่างก็ยังคงเงียบเป็นเป่าสาก ; ยิ่งมีกระแส “เสี่ยแป้ง นาโหนด” ดึงความสนใจของสังคม ทำให้แทบไม่มีใครสนใจเรื่องของ นายทักษิณ ชินวัตร ; วลีคำพูดที่ว่า คนรวยทำอะไรก็ไม่ผิด ตะรางมีไว้ขังคนจน คนไม่มีอำนาจ ความไม่เท่าเทียม ความเหลื่อมล้ำ กำลังถูกนำมาพูดถึง ถกเถียงกันอีกครั้ง…”
![](https://detective-news.com/index2022/wp-content/uploads/2023/11/วัชระ200366-827x1024.png)
ย้อนไปเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ ได้ส่งหนังสือถึงพลตำรวจเอก วัชรพล ประสานราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. เพื่อติดตามทวงถามกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 คดีระหว่างคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โจทก์ กับ พันตำรวจโท ทักษิณ หรือ นายทักษิณ ชินวัตร จำเลย มูลค่าความเสียหายจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืม (เงินกู้ยืมจำนวน 4,000 ล้านบาท) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ที่ให้กู้แก่รัฐบาลพม่า ตอนหนึ่งของคำพิพากษา ระบุว่า
“กรณีจึงเป็นเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ชอบที่จะต้องแจ้งให้กระทรวงการคลังดำเนินการให้จำเลยนั้นชดใช้ความเสียหายนั้นเอง ไม่มีบทกฎหมายใดให้อำนาจโจทก์มีคำขอให้จำเลยคืนหรือใช้ค่าเสียหายให้แก่กระทรวงการคลังเข้ามาในคดีนี้ได้ จึงต้องยกคำขอโจทก์ในส่วนนี้” แต่ไม่ปรากฏข่าวต่อสาธารณะว่า ป.ป.ช.ได้ดำเนินการคืบหน้าอย่างไร
โดยวันนั้น นายวัชระ กล่าวกับผู้สื่้อข่าวว่า “ผมจึงอาศัยอำนาจตาม พรบ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ถาม ป.ป.ช.ว่าบัดนี้ระยะเวลาล่วงเลยมาแล้ว 4 ปี 5 เดือน
- สำนักงาน ป.ป.ช. แจ้งกระทรวงการคลังให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาแล้วหรือไม่ อย่างไร
- หากสำนักงาน ป.ป.ช. ยังไม่ได้แจ้งกระทรวงการคลังให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาจะเร่งดำเนินการเมื่อไหร่ อย่างไร และขอให้ส่งสำเนาเอกสารผลการดำเนินงานของ ปปช. ให้ทราบด้วย
ถ้าไม่มีคำตอบ ผมจะมาทวงหนี้ให้ประเทศทุกๆ เดือน จนกว่าจะปฏิบัติตามคำพิพากษา”
“ผมไม่ขัดข้องที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะแต่งตั้งนายทักษิณเป็นประธานที่ปรึกษาของรัฐบาล เพราะมีความรู้ความสามารถจริง มีความเชี่ยวชาญในกิจการต่างประเทศเป็นอย่างมาก ควรที่จะมาพัฒนาประเทศร่วมกันแต่นายทักษิณต้องคืนเงินที่เอาไปให้กับประเทศของท่านบ้าง เพราะคนยากจนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน” นายวัชระ กล่าว
ต่อมาวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ป.ป.ช. โดย นายพัฒนพงศ์ จันทร์เพ็ชรพูล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค ๙ รักษาการในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ยืนยันต่อ นายวัชระ เพชรทอง ว่า สำนักงาน ป.ป.ช. (โจทก์) ได้มีหนังสือแจ้งให้กระทรวงการคลังดำเนินการเพื่อให้ พันตำรวจโท หรือ นายทักษิณ ชินวัตร (จำเลย) ชดให้ค่าเสียหายตามคำพิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.๓/๒๕๕๑ คดีหมายเลขแดงที่ อม.๔/๒๕๕๑ ไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ย้อนไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2562 ป.ป.ช. ก็ได้มีการส่งหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ ปช ๑๑๒๙/๑๓๕๕ ถึงปลัดกระทรวงการคลัง แจ้งว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.๓/๒๕๕๑ คดีหมายเลขแดงที่ อม.๔/๒๕๕๑ ระหว่าง ป.ป.ช. (โจทก์) และ พันตำรวจโท หรือ นายทักษิณ ชินวัตร (จำเลย) ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 ว่า จำเลยในฐานะเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ได้เข้ามีส่วนได้เสีย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเอง หรือบริษัท ชิน แซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) อันเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๒ (เดิม) ให้จำคุก ๓ ปี ส่วนประเด็นว่าโจทก์มีสิทธิขอให้จำเลยคืนหรือใช้ค่าเสียหายให้แก่กระทรวงการคลังหรือไม่ เพียงใด นั้น ขณะยื่นฟ้อง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๑ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๗๓/๑ วรรคหนึ่ง (เดิม) กำหนดวิธีเรียกค่าเสียหายไว้เป็นการเฉพาะแล้ว กรณีจึงเป็นเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ (คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)) เห็นชอบที่จะต้องแจ้งให้กระทรวงการคลังดำเนินการให้จำเลยชดใช้ความเสียหายนั้น ไม่มีบทกฎหมายใดให้อำนาจโจทก์มีคำขอให้จำเลยคืนหรือใช้ค่าเสียหายแก่กระทรวงการคลังเข้ามาในคดีนี้ได้ จึงต้องยกคำขอส่วนนี้ ซึ่งบัดนี้คดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว
สำนักงาน ป.ป.ช. จึงขอเรียนว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับทราบคำพิพากษาดังกล่าวแล้ว และมีมติให้แจ้งผลคดีดังกล่าว ให้กระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในฐานะเป็นหน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย ที่ต้องจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีชดเชยความเสียหายที่เกิดจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมให้แก่ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย อันเนื่องมาจากการกระทำของจำเลยต่อไป…
![](https://detective-news.com/index2022/wp-content/uploads/2023/11/145190-749x1024.jpg)
![](https://detective-news.com/index2022/wp-content/uploads/2023/11/145188-691x1024.jpg)
ล่าสุด 29 พฤศจิกายน 2566 นายวัชระ เพชรทอง ยังกัดไม่ปล่อย ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าต่อ พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. โดยระบุในหนังสือว่า
ขอทราบการติดตามผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. กรณีมีหนังสือแจ้งให้กระทรวงการคลังดำเนินการเพื่อให้ พันตำรวจโท หรือ นายทักษิณ ชินวัตร จำเลย ชดใช้ค่าเสียหายตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอเรียนสอบถาม สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีการติดตามผลการดำเนินงานของกระทรวงการคลังถึงขั้นตอนใด และได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาหรือไม่ เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ และขอสำเนาเอกสารประกอบ (ถ้ามี) ด้วย
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา “เสี่ยแป้ง นาโหนด” หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง ได้ออกมาทวงขอความยุติธรรมให้กับตนเอง แหกคุก อัดคลิปแฉกระบวนการยุติธรรมของไทย ทำให้สะเทือนถึงหลายหน่วยงาน กลบกระแสประเด็นที่ชาวไทยตั้งคำถามกับกรมราชทัณฑ์ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า นายทักษิณ ชินวัตร หรือ นช.ทักษิณ ปัจจุบันกลับเข้าไปอยู่ในเรือนจำหรือยังคงรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจกันแน่ ซึ่งก่อนหน้านั้น กรมราชทัณฑ์ และ สำนักงานตำรวจแหน่งชาติเองก็อ้ำอึ้งมาโดยตลอด ไม่มีคำตอบใดๆ ที่ชัดเจนให้สังคมไทย
ยิ่งมีกระแส “เสี่ยแป้ง นาโหนด” ดึงความสนใจของสังคม ทำให้แทบไม่มีใครสนใจเรื่องของ นายทักษิณ ชินวัตร แม้ว่า นายวัชระ เพชรทอง จะทำหนังสือติดตามทวงถามไปยัง ป.ป.ช. หลายรอบ และ ป.ป.ช.เองก็ยันยันว่ามีหนังสือเห็นชอบตามคำพิพากษาของศาลไปยังกระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งสื่อก็ประโคมข่าวกันอย่างอึกกระทึกครึกโครมก็ตาม แต่ทุกอย่างก็ยังคงเงียบเป็นเป่าสาก…
![](https://detective-news.com/index2022/wp-content/uploads/2023/11/image-60.png)
เสียงสะท้อน คำถามจากสังคม ถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่า ที่กระทรวงการคลังไม่มีการดำเนินการใดๆ แม้ว่าจะมีคำพิพากษาของศาลฯ ให้ นายทักษิณ ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่กระทรวงการคลังดังกล่าวแล้วก็ตาม เหตุใดทุกอย่างยังคงเงียบไม่เร่งดำเนินการใดๆ หรือเป็นเพราะ จำเลยคนนั้นชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”..?!?
![](https://detective-news.com/index2022/wp-content/uploads/2023/11/image-59.png)
ผู้มีอำนาจทั้งหลายอย่าคิดว่า เรื่องของ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” กับเรื่องของ “นายทักษิณ ชินวัตร” เป็นคนละเรื่องกันนะครับ เพราะวลีคำพูดที่ว่า คนรวยทำอะไรก็ไม่ผิด ตะรางมีไว้ขังคนจน คนไม่มีอำนาจ ความไม่เท่าเทียม ความเหลื่อมล้ำ กำลังถูกนำมาพูดถึง ถกเถียงกันอีกครั้ง
เมื่อการบังคับใช้กฎหมายมีความไม่เท่าเทียม ศรัทธา ความหวัง เสียงสะท้อน จากประชาชนถึง “ยุติธรรมที่เหลื่อมล้ำ” มันจะดังกึกก้องขึ้นเรื่อยๆ…
การเลือกตั้งครั้งหน้า แม้พรรคของท่านทุ่มเท คิดค้นเทคนิคการหาเสียงดีสักเพียงใด เมื่อประชาชนไม่ศรัทธาการทำงานของพวกท่าน เขาไม่ลงคะแนนเสียงให้ ก็ทำใจไว้ด้วย…นะครับ…
#สืบจากข่าว รายงาน