“นักวิชาการอิสระ” โพสต์หักล้าง “ก้าวไกล”
“ปฏิรูป-แก้ไข ม.112” เท่ากับ “ล้มล้าง”
ไม่ใช่คุ้มครองประมุข
ไม่ใช่คุ้มครองเสรีภาพ ปชช.
แต่คุ้มครองคนคิดล้มล้าง!!
นายพูลเดช กรรณิการ์ นักวิชาการอิสระ อดีตที่ปรึกษาการเมือง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ โพสต์เฟสบุ๊ค วันที่ 29 มกราคม 2567 ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล โพสต์คลิปชี้แจง การที่พรรคก้าวไกลมีนโยบายและดำเนินการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า
“ปฏิรูป เท่ากับ ล้มล้าง”
แก้ไข ม.112 เท่ากับล้มล้าง เพราะเท่ากับ เปิดโอกาสให้คนที่มีความคิดต้องการล้มล้าง สามารถกระทำการที่เป็นการบ่อนทำลายหรือล้มล้างได้ (โดยไม่ผิดกฎหมาย) ทั้งโดยการพูด การเขียน การเผยแพร่ หรือโดยการแสดงออกผ่านการกระทำต่างๆได้
การแก้ไข ม.112 จึงไม่ใช่การคุ้มครองประมุข แต่เป็นการทำให้ประมุขปราศจากการคุ้มครองโดยกฎหมาย และการแก้ไข ม.112 ก็ไม่ใช่การคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน เพราะประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกสำนึกในคุโณปการที่สถาบันมีต่อประเทศชาติและประชาชนมาตั้งแต่ในอดีต และเห็นถึงความสำคัญของสถาบันที่มีต่อประเทศชาติ คนส่วนใหญ่ของประเทศจึงไม่มีความคิด ไม่มีเหตุผลที่จะวิพากษ์วิจารณ์หรือจาบจ้วงสถาบัน แต่ต้องการแสดงความคิดเห็น หรือวิพากษ์วิจารณ์นักการเมือง ข้าราชการโกงกิน รวมถึงธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ผูกขาด กินรวบ และเอาเปรียบประชาชนมากกว่า
การแก้ไข ม.112 จึงเป็นการคุ้มครองคนที่มีความคิดล้มล้างสถาบัน!!
สถาบันพระมหากษัตริย์ มิได้ถูกวางไว้ที่สูง โดยกฎหมายที่มีบทลงโทษสูง แต่อยู่ในที่ปกติธรรมดาเช่นเดียวกับประชาชนทุกคน ที่ย่อมได้รับการคุ้มครองจากการถูกหมิ่นประมาท กล่าวร้ายทำให้เสื่อมเสีย เสียหาย
สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในที่สูง เพราะคุโณปการที่มีต่อประเทศชาติและประชาชนมาตั้งแต่ครั้งก่อร่างสร้างประเทศไทยจวบจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุผล ด้วยสติปัญญา และด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของคนไทย
แก้ไขนำไปสู่การล้มล้างในที่สุด”
ก่อนหน้านี้ เมื่อไม่กี่วันก่อน พรรคก้าวไกล ได้โพสต์คลิปชี้แจงถึง การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ข้อความว่า
“ปฏิรูป ต้องไม่เท่ากับล้มล้าง”
แก้ไข 112 ไม่เท่ากับล้มสถาบัน แต่คือหน้าที่ตามระบบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา
พรรคก้าวไกลขอยืนยันว่า การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นไปเพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ธำรงอยู่คู่สังคมประชาธิปไตย โดยสร้างสมดุลระหว่างการคุ้มครองประมุข กับการคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน
เพราะการวางสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ในที่สูง ไม่ได้ใช้กฎหมายที่รุนแรงและโทษสูง แต่คือการธำรงสถานะของพระมหากษัตริย์ไว้บนฐานของเหตุผล สติปัญญา และความยินยอมพร้อมใจของประชาชน”
“แก้ไขไม่ใช่ล้มล้าง”
“ผมไม่สนใจประเด็นที่หลายฝ่ายมองกันว่า พรรคก้าวไกลโพสต์คลิปนี้ เพื่อพยายามเอาตัวรอด กรณีที่ในวันพุธที่ 31 มกราคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดอ่านคำวินิจฉัยกลางคำร้องคดีล้มล้างการปกครองฯ หรือคดีที่มีการร้องว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 และ 2 ตามลำดับ มีการเสนอร่างแก้ไขมาตรา 112 เข้าสภา และนำนโยบายแก้ไข 112 ไปหาเสียงเลือกตั้ง เป็นพฤติการณ์ที่เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ แต่ผมโพสต์นี้ เพื่อหักล้างเหตุผลที่พรรคก้าวไกลนำมาอ้าง หรือนำมาแก้ตัวครับ” นายพูลเดช ระบุ
พูลเดช กรรณิการ์
นักวิชาการอิสระ
อดีตที่ปรึกษาการเมือง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
29 มกราคม 2567