ดึงเทคโนโลยี “หัวเว่ย” เพิ่มรายได้เกษตรกร ด้วยการใช้นวัตกรรมด้านพลังงานเพื่อ “ลดต้นทุนค่าไฟฟ้า” พัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ไปสู่การวางแผนการผลิตที่ตรงกับความต้องการของตลาด ต่อยอดแอพพลิเคชัน “เกษตรพิรุณราช” ให้เป็นช่องทางการค้าขายในรูปแบบ “From Farm to Table”
ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย ได้ร่วมประชุมกับผู้บริหารบริษัทหัวเว่ย (ประเทศไทย) และ ผศ.ดร.สิตางศุ์ พิลัยหล้า ที่ปรึกษา รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ เพื่อกำหนดแแผนการทำงานภายใต้นโยบายรัฐบาล “การตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่า”
ผู้แทนการค้าไทยเปิดเผยหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีข้อสรุปของแผนงานในการนำนวัตกรรมมาช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และเพิ่มรายได้ให้พี่น้องเกษตรกร 3 ด้าน คือ 1. ใช้นวัตกรรมด้านพลังงานเพื่อ “ลดต้นทุนค่าไฟฟ้า” สำหรับภาคการเกษตร โดยจะแบ่งเป็นโครงการขนาดย่อมในพื้นที่สูงและพื้นที่ห่างไกล กับโครงการขนาดใหญ่ด้านพลังงานสะอาดในพื้นที่การดูแลรับผิดชอบของกระทรวงเกษตรฯ 2. พัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ด้านการเกษตรและการค้า เพื่อให้สามารถใช้การตลาดนำ การพยากรณ์ผลผลิต นำไปสู่การวางแผนการผลิตที่ตรงกับความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิผล และ 3. ต่อยอดแอพพลิเคชัน “เกษตรพิรุณราช” ให้เป็นช่องทางการค้าขายของพี่น้องเกษตรกรในรูปแบบ “From Farm to Table” โดยการพัฒนาแพลตฟอร์มต่อยอดนี้ กระทรวงเกษตรฯ จะได้ทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และผู้ให้บริการเอกชนรายอื่นเพิ่มเติม เช่น WeChat และ Line ต่อไป
“ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตัวเลขการค้าและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น จะนำไปสู่รายได้ที่สูงขึ้นของผู้ประกอบการไทย ซึ่ง รองฯ ภูมิธรรม ดูแลด้านการตลาดอยู่อย่างใกล้ชิด สำหรับกลุ่มพี่น้องเกษตรกรที่รัฐบาลตั้งเป้าให้มีรายได้เพิ่ม 3 เท่า รัฐมนตรีฯ ธรรมนัส ได้ขับเคลื่อนให้กระทรวงเกษตรฯ จับมือกับผู้เชี่ยวชาญแขนงต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศในการนำนวัตกรรมมาเสริมภาคการเกษตรเพื่อการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และเพิ่มรายได้ พร้อมทั้งทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และทีมไทยแลนด์ทุกคน เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว“ ผู้แทนการค้าย้ำ