“….การเกิดขึ้นของกรอบความเข้าใจใหม่ “พลังการผลิตคุณภาพใหม่” นี้ จีนจะผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกในยุค “ตะวันออกลอยสูง ตะวันตกคล้อยต่ำ” (东升西降)อันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบหลายร้อยปี ในยุคของอารยธรรมอุตสาหกรรม จนเรียกได้ว่าเป็น “การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4” โดยมีจีนเป็นหัวหอกที่จะแสดงพลานุภาพยิ่งใหญ่พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน พลิกหน้าประวัติศาสตร์อารยธรรมของมวลมนุษยชาติได้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งผู้ที่เข้าถึงสัจธรรมนี้ก็หนีไม่พ้น “สี จิ้นผิง” ในฐานะจอมทัพขับเคลื่อนกระบวนการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงของจีนวันนี้ เฉกเช่นที่เคยเกิดขึ้นในยุค “เหมา เจ๋อตง” และ “เติ้ง เสี่ยวผิง” กล่าวได้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีเครื่องมือที่เหมือนแก้ววิเศษนำทางเหมือนกับเกิดดวงตาวิเศษมองเห็นทางเอกที่เป็นทางออกของปัญหา นี่คือคำตอบพื้นฐานที่สุดสำหรับความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและยิ่งใหญ่ของจีนยุคใหม่ จนส่งประเทศจีนผงาดขึ้นเหนือบรรดาชาติตะวันตกอย่างชัดเจน…”
ของดีวิเศษ 法宝
การเกิดขึ้นของกรอบความเข้าใจใหม่ “พลังการผลิตคุณภาพใหม่” (新质生产力)ดังที่กำลังเป็นอยู่ในประเทศจีน มีความสำคัญยิ่งยวดต่อพัฒนาการของอารยธรรมมนุษย์
เพราะมันเป็นกระบวนการนำทางการเมืองการปกครองที่อิงอยู่กับการ “ตื่นรู้” ในสัจธรรม เข้าถึงแก่นแท้ของสรรพสิ่งที่มีความเป็นวิทยาศาสตร์ครบถ้วนสมบูรณ์ แตกต่างอย่างยิ่งกับการนำทางการเมืองของโลกตะวันตกทุนนิยมที่ยึดถือเอาผลประโยชน์และความโลภเป็นที่ตั้ง
และที่สำคัญคือ การเกิดขึ้นของกรอบความเข้าใจใหม่นี้ อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่จีนจะผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก ที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของดุลยอำนาจโลกยุค “ตะวันออกลอยสูง ตะวันตกคล้อยต่ำ”(东升西降)อันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบหลายร้อยปี ในยุคของอารยธรรมอุตสาหกรรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงที่วงการวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีชั้นสูงของโลกกำลังสร้างปรากฏการณ์และเงื่อนไขใหม่ๆให้แก่การนวัตกรรมล้ำสมัยทั้งเอไอและควันตัมเทคโนโลยีเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตขึ้นสู่ระดับใหม่คุณภาพใหม่จนเรียกได้ว่าเป็น”การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4″ โดยมีจีนเป็นหัวหอก !
ดังนั้น กรอบความเข้าใจใหม่ “พลังการผลิตคุณภาพใหม่”(新质生产力)จึงจะแสดงพลานุภาพยิ่งใหญ่พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน พลิกหน้าประวัติศาสตร์อารยธรรมของมวลมนุษยชาติได้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
ก่อนอื่นใด กรอบความคิดใหม่นี้เป็นผลของการเคลื่อนไหวปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและกว้างขวางบนฐานของการพัฒนาประเทศคุณภาพสูงที่ใช้การนวัตกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีชี้นำ จนเกิดเป็นความรับรู้ในระดับแก่นแท้ของสิ่ง ที่เรียกว่า “พลังการผลิตคุณภาพใหม่” ขึ้นมาในที่สุด ซึ่งผู้ที่เข้าถึงสัจธรรมนี้ก็หนีไม่พ้น สี จิ้นผิง ในฐานะจอมทัพขับเคลื่อนกระบวนการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงของจีนวันนี้
ทั้งหมดดำเนินไปตามกระบวนการ “หาสัจจะจากความเป็นจริง”(实事求是)โดยสมบูรณ์แบบ เฉกเช่นที่เคยเกิดขึ้นในยุคเหมาเจ๋อตงและเติ้งเสี่ยวผิง
กล่าวได้ว่า ด้วยกระบวนการหาสัจจะจากความเป็นจริงที่ “ปฏิบัติ-รับรู้-ปฏิบัติ” นี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีเครื่องมือที่เหมือนแก้ววิเศษนำทางทำให้ทุกครั้งที่เข้าถึงสัจธรรม ก็เหมือนกับเกิดดวงตาวิเศษมองเห็นทางเอกที่เป็นทางออกของปัญหา
นี่คือคำตอบพื้นฐานที่สุดสำหรับความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและยิ่งใหญ่ของจีนยุคใหม่
พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ดวงตาวิเศษนี้
ในยุค เหมา เจ๋อตง โดยเหมาเจ๋อตงที่ยืนหยัดอยู่บนฐานความเข้าใจในสภาพเป็นจริงของสังคมจีน สามารถนำเสนอแนวทางปฏิวัติและยุทธศาสตร์ยุทธวิธีการทำสงครามประชาชนที่สอดคล้องกับสภาพเป็นจริงของจีน แทนที่การต่อสู้แบบการปฏิวัติรัสเซีย ด้วยการเข้าถึงสัจธรรมที่ว่า การปฏิวัติประเทศจีนมิใช่การปฏิวัติสังคมนิยมแบบสหภาพโซเวียต แต่เป็นการปฏิวัติประชาชาติประชาธิปไตย ด้วยการสร้างพันธมิตรกรรมกรชาวนา ดำเนินการต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธ สร้างกองทัพและแนวร่วมอันกว้างใหญ่ฯลฯ
ต่อมาในยุค เติ้ง เสี่ยวผิง พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้ใช้ดวงแก้ว “หาสัจจะจากความเป็นจริง” นี้เป็นเครื่องมือส่องทางให้แก่การพัฒนาประเทศ เกิดกรอบความเข้าใจใหม่ “สังคมนิยมอัตลักษณ์จีน”(中国特色社会主义)และ “เศรษฐกิจตลาดสังคมนิยม”(社会主义市场经济)ขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาประเทศจีนได้อย่างเหลือเชื่อ
เมื่อเข้าสู่ยุค สี จิ้นผิง การพัฒนาของจีนก้าวเข้าสู่ขั้น “การพัฒนาคุณภาพสูง” ทั่วด้าน เกิดเป็น “ความทันสมัยแบบจีน”(中国式现代化)ที่ล้ำหน้าโลกตะวันตก สะท้อนความเป็นอนาคตของโลกชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในท่ามกลางความระส่ำระสายของโลกตะวันตก ที่ทั้งตื่นตระหนกและหวาดกลัว
ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่า ด้วยพลานุภาพของกรอบความเข้าใจใหม่ “พลังการผลิตคุณภาพใหม่” นี้ จะกระตุ้นให้เกิดการระเบิดจากภายในอย่างรุนแรงเป็นประวัติการณ์ จนส่งประเทศจีนผงาดขึ้นเหนือบรรดาชาติตะวันตกอย่างชัดเจน เปิดศักราชใหม่ให้แก่การพัฒนาก้าวหน้าของมวลมนุษยชาติอีกครั้งนานนับร้อยนับพันปี
ไขคำจีน