เมื่อไม่นานนี้ หยางเย่าอวี่ มัคคุเทศก์นำเที่ยวผู้เพิ่งบอกลาคณะครูชาวไทยที่เดินทางเยือนมหาวิทยาลัยหลายแห่งในกรุงปักกิ่งของจีน เร่งรุดไปยังมณฑลซานซีทางตอนเหนือของจีนเพื่อต้อนรับแขกชาวไทยอีกกลุ่ม
มัคคุเทศก์ชาวจีนที่พูดภาษาไทยได้คนนี้เล่าว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางเยือนจีนพุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่นานนี้เป็นผลจากข้อตกลงยกเว้นวีซ่าซึ่งกันและกันระหว่างสองประเทศ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา
“ก่อนหน้านี้ช่วงหลังสงกรานต์ในเดือนเมษายนจะเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเยือนจีนมากที่สุด แต่ตอนนี้ตารางงานของผมถูกจับจองจนเต็มตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. จนถึงสิ้นเดือนเมษายนแล้ว” หยางกล่าว
พรทิพย์ โรจนสุนันท์ พร้อมด้วยชาวไทยอีก 20 คน เป็นนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากข้อตกลงยกเว้นวีซ่า โดยหลังจากบินตรงถึงนครไท่หยวน เมืองเอกของซานซี ในวันที่ 9 มี.ค. พวกเขาเริ่มต้นทริปท่องเที่ยว 5 วัน ด้วยการเยี่ยมชมแหล่งมรดกโลกแห่งองค์การยูเนสโก 3 แห่ง ได้แก่ ภูเขาอู่ไถ หมู่ถ้ำหินแกะสลักอวิ๋นกาง และเมืองโบราณผิงเหยา
“เมื่อก่อนดิฉันมักคุ้นชินกับจุดหมายปลายทางอย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ แต่พอได้มาซานซีก็ต้องขอบอกว่าประทับใจกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของที่นี่อย่างมาก และอยากจะชวนเพื่อนพ้องและญาติมิตรให้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของซานซีด้วยตัวพวกเขาเอง” พรทิพย์กล่าว
อนึ่ง นโยบายฟรีวีซ่าได้กระตุ้นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประชาชนชาวจีนและชาวไทย ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยมองจีนเป็นตัวเลือกแรกของการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น
ข้อมูลจากทริปดอตคอม (Trip.com) เอเจนซีท่องเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ของจีน ระบุว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเยือนไทยเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 30 เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะยอดจองการเดินทางท่องเที่ยวจากไทยสู่จีนเพิ่มขึ้นสามเท่าเมื่อเทียบปีต่อปี หรือเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 160 เมื่อเทียบกับปี 2019
ฉินจิ้ง รองประธานทริปดอตคอม กรุ๊ป กล่าวว่าจีนและไทยต่างเป็นจุดหมายและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่อกัน และการดำเนินนโยบายฟรีวีซ่าซึ่งกันและกันมีนัยยะเชิงบวกต่อการเติบโตของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในทั้งสองประเทศอย่างมาก โดยฝั่งจีนสามารถมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวเฉพาะตัวยิ่งขึ้น ครอบคลุมทั้งวัฒนธรรม ประเพณีพื้นบ้าน และกิจกรรมหิมะ-น้ำแข็ง
นับตั้งแต่นโยบายยกเว้นวีซ่าซึ่งกันและกันระหว่างจีนและไทยมีผลบังคับใช้ จำนวนประเทศที่ดำเนินนโยบายเข้าประเทศลักษณะดังกล่าวร่วมกับจีนได้เพิ่มขึ้นเป็น 23 แห่ง อาทิ สิงคโปร์ มัลดีฟส์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
นอกจากนั้นจีนได้ทดลองดำเนินนโยบายฟรีวีซ่าสำหรับสวิตเซอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ ฮังการี ออสเตรีย เบลเยียม และลักเซมเบิร์ก ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยมาตรการทั้งหมดเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกในสายตาคนวงในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และสอดคล้องกับการส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าทั่วโลก รวมถึงการเร่งแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน
“การประชุมสภานิติบัญญัติระดับสูงสุดและหน่วยงานที่ปรึกษาทางการเมืองระดับสูงสุดหรือการประชุมสองสภาที่เพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อไม่นานนี้ ระบุว่าจีนจะอำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติเข้ามาทำงาน ศึกษาเล่าเรียน และท่องเที่ยวในจีน ซึ่งสิ่งนี้บ่งชี้การมุ่งมั่นเปิดกว้างอย่างต่อเนื่องของจีน” จางเว่ย เลขานุการฝ่ายการท่องเที่ยวขาเข้า สังกัดสมาคมการบริการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน กล่าว
ที่มา : ซินหัว