วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2567 เวลา 13.30 น. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร สินธุไพร) ประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มอบปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
(นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส) เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) ครั้งที่ 4/2567 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล จากการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) เดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น สั่งฟ้องผู้ประกอบการกว่า 52 ราย ฐานละเมิดสิทธิผู้บริโภค คดีใหญ่รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 23 ล้านบาท ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ ตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ สินค้าและบริการทั่วไปรายละเอียด ดังนี้ ทบทวนการดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจ 2 ราย
- ซื้อห้องชุดแล้วขอเลิกสัญญา บริษัทฯ ไม่คืนเงิน ผู้บริโภค 2 ราย ซื้อห้องชุดแล้วต้องการยกเลิกสัญญา ปฏิเสธการคืนเงินและริบเงินที่ผู้บริโภคชำระไปแล้วทั้งหมด ทั้งเงินจอง เงินทำสัญญา และเงินดาวน์ รวมเป็นเงิน 2,352,000 บาท มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 2,352,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย รวมถึงดำเนินการให้ผู้บริโภครายอื่นที่ได้รับความเสียหายที่มีลักษณะเดียวกัน
- สั่งซื้อเครื่องยนต์ใช้แล้วไม่ตรงกับที่สั่ง ผู้บริโภคสั่งซื้อเครื่องยนต์ใช้แล้วจากเฟซบุ๊กแห่งหนึ่ง และชำระเงิน 30,000 บาท ต่อมาผู้ร้องพบว่าเครื่องยนต์ดังกล่าวไม่ตรงกับที่ใช้งานจึงแจ้งยกเลิกสัญญา และผู้ขายตกลงคืนเงินให้ หลังจากนั้นปรากฏว่าผู้ขายไม่คืนเงินให้และไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 30,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ 14 ราย
- ซื้อห้องชุด บริษัทฯ ก่อสร้างไม่เสร็จตามสัญญา ผู้บริโภคทำสัญญาจะซื้อจะขาย ห้องชุดกับบริษัทฯ แต่บริษัทฯ ดำเนินการก่อสร้างห้องชุดไม่แล้วเสร็จตามสัญญา ผู้ร้องจึงมีความประสงค์ขอยกเลิกสัญญาและเงินทั้งหมดคืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 1,194,375 บาทพร้อมดอกเบี้ย
- ทำสัญญาว่าจ้างก่อสร้างบ้านพักอาศัย ผู้บริโภคได้ทำสัญญาว่าจ้างก่อสร้างบ้านกับผู้รับจ้าง จำนวน 2,400,000 บาท แต่ผู้รับจ้างก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา ต่อมาได้จ้างบริษัทฯ ทำการประเมินราคาส่วนที่เหลือและจะต้องดำเนินการต่อให้แล้วเสร็จ เป็นเงิน 800,000 บาท ผู้ร้องจึงมีความประสงค์ให้ผู้รับจ้างเดิมคืนเงินจำนวนดังกล่าว มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 800,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- ว่าจ้างก่อสร้างรั้ว ผู้รับจ้างก่อสร้างรั้วผิดสัญญา โดยรั้วที่สร้างล้มซ้ำซาก ผู้เสียหาย จึงจ้างผู้อื่นซ่อมแซมและเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม คณะกรรมการมีมติให้ผู้รับจ้างชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 20,800 บาท พร้อมดอกเบี้ย เนื่องจากผู้รับจ้างไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตามที่ตกลงกันไว้ ทั้งที่ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งผู้รับจ้างให้คืนเงิน 20,800 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- ซื้อห้องชุด บริษัทฯ ก่อสร้างไม่เสร็จตามสัญญา ผู้บริโภคทำสัญญาจะซื้อ จะขายห้องชุดกับบริษัทฯ ชำระเงินจอง เงินสัญญา และเงินดาวน์ รวมเป็นเงิน 766,200 บาท แต่บริษัทฯ ดำเนินการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญาและไม่คืนเงินให้ผู้บริโภค จึงเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 766,200 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- จ้างเหมาก่อสร้างบ้าน สร้างไม่เสร็จตามสัญญา ผู้บริโภคทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้าน จำนวน 2 หลัง ได้ชำระเงินไปแล้ว จำนวน 9,900,000 บาท ต่อมาบริษัทฯ ไม่ดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จและทิ้งงานไป ได้พยายามติดต่อบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง แต่เพิกเฉย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 5,471,047.50 บาท พร้อมดอกเบี้ย และชดใช้ค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาก่อสร้างส่วนที่คงค้าง จำนวน 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 5,491,047.50 บาท
- ซื้อห้องชุดไม่เป็นไปตามแบบที่โฆษณาขาย ผู้บริโภคทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดกับบริษัทฯ ชำระเงินจอง เงินสัญญา และเงินดาวน์ รวมเป็นเงิน 832,190 บาท ต่อมาได้เข้าตรวจสอบห้องชุดพบว่า ภายในห้องนอนมีคานเสาขนาดใหญ่เป็นโครงสร้างอาคารที่สร้างล้ำเข้าไปในบริเวณห้องนอน ไม่เป็นไปตามที่โฆษณาขายและไม่มีการแจ้งล่วงหน้า การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 832,190 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- ซื้อห้องชุดไม่เป็นไปตามแบบแปลนที่กำหนด กรณีผู้ร้องได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดกับบริษัทฯ โดยได้ชำระเงินให้กับบริษัทฯ แล้วเป็นเงินจำนวน 68,606 บาท ต่อมาปรากฏว่าห้องชุดดังกล่าวสร้างผิดแบบแปลนที่กำหนดในสัญญา ผู้ร้องจึงได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาและให้บริษัทฯ คืนเงินที่ชำระไปแล้วทั้งหมด มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 68,606 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- ซื้อห้องชุดแล้วขอเลิกสัญญา บริษัทฯ ไม่คืนเงิน ผู้บริโภคทำสัญญาจะซื้อจะขาย ห้องชุดกับบริษัทฯ ชำระเงินจอง เงินสัญญา และเงินดาวน์ รวมเป็นเงิน 261,000 บาท ต่อมาสถาบันการเงินไม่อนุมัติสินเชื่อ จึงขอยกเลิกสัญญาและขอเงินคืน แต่บริษัทฯ ไม่คืนเงิน การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 261,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- ว่าจ้างตกแต่งภายใน ไม่เสร็จตามสัญญา ผู้บริโภคได้ทำสัญญาว่าจ้างตกแต่งภายในราคา 1,022,057.72 บาท ตกลงแบ่งชำระจำนวน 4 งวด ได้ชำระเงินแล้วงวดที่ 1 และงวดที่ 2 เป็นเงินจำนวน664,337.52 บาท ปรากฏว่าผู้รับจ้างไม่เข้าดำเนินการให้แล้วเสร็จตามสัญญา ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงขอความเป็นธรรม มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 397,724.52 บาท พร้อมดอกเบี้ย และชดใช้ค่าส่วนต่าง จำนวน 102,890028 บาท ค่าเสียหายจากการปรับเปลี่ยนดีไซน์และวัสดุ จำนวน 43,442 บาท รวมเป็นเงิน 544,056.80 บาท
- ซื้อห้องชุดแล้วขอเลิกสัญญา บริษัทฯ ไม่คืนเงิน ผู้บริโภคทำสัญญาจะซื้อจะขาย ห้องชุดกับบริษัทฯ ชำระเงินจอง เงินสัญญา และเงินดาวน์ รวมเป็นเงิน 100,000 บาท ต่อมาสถาบันการเงินไม่อนุมัติสินเชื่อ จึงขอยกเลิกสัญญาและขอเงินคืน แต่บริษัทฯ ไม่คืนเงิน การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 95,100 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- ว่าจ้างเจาะเสาเข็ม ไม่เสร็จตามสัญญา ผู้บริโภคได้ว่าจ้างเจาะเสาเข็มจำนวน 33 ต้นในราคา 350,000 บาท ชำระเงินไปแล้ว 262,500 บาท แต่บริษัทฯ ดำเนินการล่าช้ากว่ากำหนดและเจาะเสาเข็มได้ 20 ต้น จากนั้นหยุดการทำงาน จึงได้ติดต่อบริษัทฯ เพื่อขอคืนเงิน แต่เพิกเฉย จึงขอความเป็นธรรม มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 62,000.02 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- ทำสัญญาว่าจ้างต่อเติมบ้าน พบปัญหา ผู้บริโภคทำสัญญาว่าจ้าง ต่อเติมบ้าน ในราคา 360,000 บาท กำหนดแล้วเสร็จภายใน 45 วัน ภายหลังรับมอบงานพบปัญหา 5 รายการ จึงแจ้งให้ผู้รับจ้างดำเนินการแก้ไข แต่ไม่หายขาดยังคงเกิดปัญหาเช่นเดิม จึงมีความประสงค์เรียกร้องค่าเสียหาย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 145,449.41 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- ว่าจ้างปรับระดับพื้นด้วยปูนและระบบกันรั่วซึม แต่แก้ไขไม่ได้ ผู้บริโภคว่าจ้างบริษัทรับเหมาปรับระดับพื้นและทำระบบกันรั่วซึมให้นิติบุคคลอาคารชุด แต่หลังจากทำงานเสร็จแล้ว หลังคาดาดฟ้ายังคงรั่ว ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้อาศัย บริษัทไม่ยอมแก้ไขและนิติบุคคลต้องจ้างคนอื่นมาแก้ไข จึงต้องการให้บริษัทชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 90,860 บาท พร้อมดอกเบี้ย
- ซื้อห้องชุดแล้วขอเลิกสัญญา บริษัทฯ ไม่คืนเงิน ผู้บริโภคทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดกับบริษัทฯ ชำระเงินจอง เงินสัญญา และเงินดาวน์ รวมเป็นเงิน 556,260 บาท ต่อมาสถาบันการเงินไม่อนุมัติสินเชื่อ จึงขอยกเลิกสัญญาและขอเงินคืน แต่บริษัทฯ ไม่คืนเงิน การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 396,156 บาท พร้อมดอกเบี้ย