กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก. พล.ต.ต. อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปอท.รรท.รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ รอง ผกก.๔ บก.ปคบ.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ธันว์ธวัช อนุรักษนิยม สว.กก.4 บก.ปคบ.ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา นายสินาฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรีที่ จ.201/2565 ลงวันที่ 20 เมษายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่ายอาหารปลอม, ร่วมกันผลิตเพื่อจำหนายอาหารโดยแสดงฉลากไม่ถูกต้อง และร่วมกันประกอบกิจการผลิตอาหารโดยสุขลักษณะของสถานที่ผลิตอาหารไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด”
พฤติการณ์กล่าวคือ ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ปรากฎข่าวกรณีพบผู้บริโภคซึ่งเป็นเด็กจำนวนหลายรายเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากการรับประทานไส้กรอกและเกิดภาวะ methemoglobinemia (เมธฮีโมโกลบินนีเมีย) อีกทั้ง เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 Mon News Agency สื่อท้องถิ่นในรัฐมอญรายงานว่า เด็กในเมืองพญาตองซู เขตเมืองจ่ออินเซกจี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า ถูกนำส่งโรงพยาบาลรวมทั้งหมด 16 ราย เสียชีวิต 1 ราย หลังกินไส้กรอกที่ผลิตในประเทศไทย (ปรากฏตามลิงก์ข่าว https://transbordernews.in.th /home/?p=30572)
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ จึงได้ร่วมกันทำการสืบสวนจนทราบแหล่งจำหน่าย และสืบสวนขยายผลจนทราบถึงแหล่งผลิต จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นต่อศาล ต่อมา ศาลแขวงชลบุรี ได้อนุมัติหมายค้น ที่ 13/2565 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 และในวันเดียวกัน (วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565) เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้นำหมายค้นดังกล่าวเข้าทำการตรวจค้น บ้านเลขที่ 6/66 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี จากการตรวจค้นพบว่า สถานที่ดังกล่าวเปิดเป็นสถานที่ผลิตอาหารจากเนื้อสัตว์ เช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ โดยไม่ได้รับอนุญาต และรวมถึงผลิตภัณฑ์ไส้กรอกที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคข้างต้น อีกทั้งผลิตภัณฑ์ต่างๆ ยังมีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ไม่มีเลขสารบบอาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จึงได้ทำการตรวจยึดผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องจักร จำนวน 32 รายการ มูลค่ากว่า 700,000 บาท โดยจากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า นายสินาฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) และ น.ส.รักทวี (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นสามี-ภรรยา เป็นผู้ร่วมกันผลิตอาหารที่ผิดกฎหมายดังกล่าว
ต่อมาได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ จำนวน 4 รายการ ไปทำการตรวจสอบเพื่อหาสารปนเปื้อน ซึ่งจากการตรวจวิเคราะห์พบว่า มีใช้วัตถุเจือปนอาหาร กรดเบนโซอิก ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารสุข (ฉบับที่418) พ.ศ.2563 ออกตามพระราชบัญญัติอาหาร (ฉบับที่2) ไม่กำหนดปริมาณการใช้ จึงต้องมาขอความเห็นชอบการใช้ ซึ่งไม่ได้ขอความเห็นชอบแต่อย่างใด ดังนั้นผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 รายการ จึงเข้าข่ายฝ่าฝืนประกาศซึ่งออกตามมาตรา 6(5) มีโทษตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท อีกทั้งยังพบว่าผลิตภัณฑ์ “หมูยอ แม่จันตรี สูตรโบราณ” และ “หมูยออุบล ดั้งเดิม Premium” มีการตรวจพบยีนจำเพาะของไก่ แต่ไม่พบยีนจำเพาะของหมู จึงเข้าข่ายเป็นอาหารที่มีฉลากเพื่อลวง จัดเป็นอาหารปลอม ตามมาตรา 27(4) ฝ่าฝืนมาตรา 25(2) มีโทษตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าพันถึงหนึ่งแสนบาท
พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรีที่ จ.201/2565 ลงวันที่ 20 เมษายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่ายอาหารปลอม, ร่วมกันผลิตเพื่อจำหนายอาหารโดยแสดงฉลากไม่ถูกต้อง และร่วมกันประกอบกิจการผลิตอาหารโดยสุขลักษณะของสถานที่ผลิตอาหารไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด”
จากการสืบสวนทราบว่า นายสินาฤทธิ์ฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่บริเวณ ตำบลหนองข้างคอก อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวและเฝ้าสังเกตการณ์
จนเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายสินาฤทธิ์ฯ ได้ที่บริเวณดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วน น.ส.รักทวีฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวมารับทราบข้อกล่าวหาที่ กก.4 บก.ปคบ. เช่นเดียวกัน จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ อย. และ สสจ. ร่วมกับ บก.ปคบ. ได้ลงพื้นที่ตรวจเฝ้าระวังทั่วประเทศ และมีการสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ไส้กรอก ที่มีความเสี่ยงส่งตรวจวิเคราะห์ไปแล้ว 102 ตัวอย่าง (อยู่ระหว่างการรอผลวิเคราะห์) ทั้งนี้ได้มีการดำเนินคดีกรณีไส้กรอกไม่แสดงฉลาก และกับโรงงานที่ลักลอบผลิตที่จังหวัดชลบุรี อยุธยา และนครปฐมหากผลตรวจวิเคราะห์เกิดมาตรฐานก็จะดำเนินการในส่วนกฎหมายต่อไป
กรณีไส้กรอกมรณะนี้ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง บก.ปคบ. อย. และสสจ.ไม่นิ่งนอนใจได้ประสานส่งต่อข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงและก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตบุตรหลานให้ได้รับความปลอดภัยจากการบริโภคอาหาร หากพบก็จะขยายผลดำเนินคดีให้ถึงต้นตออย่างเช่นกรณีใส้กรอกมรณะ ต่อไป
ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค และสายด่วน อย. โทร. 1556 อีเมล์ 1556@fda.moph.go.th หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ