“…นายวัชระ เพชรทอง เห็นด้วยในหลักการที่กรุงเทพมหานครจะแจกเงินให้กับร้านโชห่วยหรือผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งควรรีบแจกให้เร็วที่สุดเพราะความเดือดร้อนของชาวบ้านไม่เคยปราณีใคร แต่การแจกเพียงเขตละ 200 ร้านค้านั้น เกรงว่าประชาชนจะได้ประโยชน์ไม่ทั่วถึง อาจเกิดช่องว่างได้…”
(21 ก.พ.65) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้ได้ไปดูการแจกเงินทุนประกอบอาชีพเพื่อช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่า กทม.เป็นประธานมอบให้รายละ 5,000 บาท จำนวน 200 รายในเขตกรุงธนเหนือ รวม 8 เขตๆ ละ 1 ล้านบาทคือ เขตธนบุรี คลองสาน บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน บางพลัด จอมทอง มีประชาชนมารับทั้งสิ้น 1,600 คน ที่หอประชุมใหญ่ ม.กรุงเทพธนบุรี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ มีการเว้นระยะและป้องกันโควิด-19 เป็นอย่างดี
นายวัชระ เพชรทอง กล่าวว่า เห็นด้วยในหลักการที่กรุงเทพมหานครจะแจกเงินให้กับร้านโชห่วยหรือผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งควรรีบแจกให้เร็วที่สุดเพราะความเดือดร้อนของชาวบ้านไม่เคยปราณีใคร แต่การแจกเพียงเขตละ 200 ร้านค้านั้น เกรงว่าประชาชนจะได้ประโยชน์ไม่ทั่วถึง อาจเกิดช่องว่างได้ ซึ่งจริงๆ ผู้ประกอบการรายย่อยคือหาบเร่-แผงลอย ได้รับความเดือดร้อนและเจ๊งจนเลิกกิจการไปเป็นจำนวนมาก เพราะผลพวงของนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ผ่านมาโดยส่วนตัวนิยมชมชอบพลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่า กทม.มาก เพราะเชียร์ให้เป็นผู้ว่าฯ มาตั้งแต่สมัยเป็นรองผู้ว่าฯ ในยุค คสช.
เมื่อทราบว่า พล.ต.อ.อัศวิน มาเป็นประธานแจกเงินทุนให้ร้านค้ารายละ 5,000 บาทในเขตทวีวัฒนาก็ดีใจ จึงเป็นธรรมเนียมที่เด็กต้องไปต้อนรับผู้ใหญ่ แต่เมื่อไปแล้ว ไม่ได้พบกันนับเป็นเรื่องน่าเสียดาย อยากให้ผู้ว่าฯอัศวินแจกให้ครบทุกเขตโดยเร็ว และควรแจกให้กับคนงานลูกจ้างกทม.ให้เท่ากับปีที่แล้วคือรายละ 12,000 บาท ไม่ใช่เหลือเพียงรายละ 5,000 บาทในปีนี้ คนกวาดถนนติดโควิด-19 จาก 5,000 บาท เหลือเงินเพียงรายละ 2,000 กว่าบาทก็มี เช่น คนงานกวาดถนนที่เขตทวีวัฒนา ไม่ควรไปหักเงินลูกจ้างกทม.ที่ไม่มาทำงานเพราะติดโรคโควิด-19เลยแม้แต่บาทเดียว เพราะเป็นเหตุสุดวิสัย