กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การ อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ, พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม, พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น, พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศชัน ผบก.ป.. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป. โดยบูรณาการประสานความร่วมมือกับ นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เจ้าหน้าที่หน่วยร่วมปฏิบัติ นายมนตรี ธนภัทรพรชัย ผู้อำนวยการกลุ่มงานโบราณคดี สำนักศิลปากร ที่ 6 สุโขทัย และ นายชินณวุฒิ วิลยาลัย ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากร
เจ้าหน้าที่ ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ, พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ, พ.ต.ท.อรรถวิทย์ สุขทัศน์, พ.ต.ท.เอนก บุญตา รอง ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.พิทยา คงเจริญ, พ.ต.ท.กิตติพงศ์ ศิลาพันธุ์, พ.ต.ต.ณรงค์ หาญสันเทียะ, พ.ต.ต.อัคนี ณ บางช้าง สว.กก.4 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป.ร่วมกันจับกุม 3 ผู้ต้องหา
- นายทศพรฯ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2759/2566 ลง 28 สิงหาคม 2566
จับกุมได้ในพื้นที่ ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี - นายทศพลฯ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2760/2566 ลง 28 สิงหาคม 2566
จับกุมได้ในพื้นที่ ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี - นายศรีออนฯ อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2761/2566 ลง 28 สิงหาคม 2566
จับกุมได้ในพื้นที่ ต.ท่าวังทอง อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา
โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “เป็นผู้เก็บได้ซึ่งโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุ ที่ซ่อนหรือฝังหรือทอดทิ้ง
โดยพฤติการณ์ ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถอ้างว่าเป็นเจ้าของได้และเบียดบังเอาโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุนั้น เป็นของ
ตนหรือของผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย และ จำหน่าย เอาไปเสีย ซึ่งโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุ โดยผิดกฎหมาย”
พร้อมตรวจยึด - เครื่องสแกนโลหะ 11 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์การขุด
- สิ่งของคล้ายโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ จำนวน 970 ชิ้น
- สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม
สถานที่ตรวจค้น จำนวน 9 จุด ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่, ลำปาง, พะเยา และสุโขทัย
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.4 บก.ป. ได้รับแจ้งเบาะแสจากกลุ่มผู้อนุรักษ์โบราณวัตถุ ว่ามีกลุ่มบุคคลลักลอบขุด ค้า โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ โดยมีการนำโบราณวัตถุต่างๆ มา
เสนอขายผ่านช่องทางออนไลน์โดยผิดกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร
จากการตรวจสอบพบบัญชีเฬชบุ๊กของกลุ่มผู้ต้องหา ลงโพสต์ภาพการขุดค้นหาโบราณวัตถุ พร้อม
ประกาศขายสิ่งของคล้ายโบราณวัตถุจำนวนหลายรายการ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการติดต่อซื้อสิ่งของ
คล้ายโบราณวัตถุดังกล่าว โดยเมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้รับสิ่งของคล้ายวัตถุโบราณมาแล้ว ได้มีการส่งตรวจพิสูจน์ที่
สำนักศิลปากร กรมศิลปากร ผลการตรวจสอบพบว่าวัตถุดังกล่าวเป็นโบราณวัตถุตามพระราชบัญญัติ
โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535) จริง ซึ่งตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ห้ามมิให้มีการขุด ค้นหา หรือซื้อขายโบราณวัตถุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มคนร้ายมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน โดยผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่ง
เป็นพี่น้องกัน มีการโพสต์ภาพผ่นทางเฟชบุ๊กขณะไปร่วมกันขุดหาโบราณวัตถุตามสถานที่ต่างๆ หลังจากนั้นจะนำโบราณวัตถุต่างๆ มาประกาศขายผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยในภาพที่ผู้ต้องหาโพสต์ยังปรากฎบุคคลอื่นๆ ที่
ร่วมกันขุดหาสิ่งของโบราณวัตถุกับผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน และขอ
อนุมัติศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิดจำนวน 3 หมายจับ พร้อมขออนุมัติศาลออกหมายค้นสถานที่ที่เชื่อ
ว่าน่าจะมีการชุกช่อนโบราณวัตถุหรือสิ่งของต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจากการตรวจสอบบัญชีธนาคารของผู้กระทำความผิด พบมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 200,000 บาท
และมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 10 ล้านบาท ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.4 บก.ป. จึงได้วางแผนพร้อมประสานความร่วมมือกับกรมศิลปากร บูรณาการร่วมกันตรวจค้นสถานที่ป้าหมายซึ่งเป็นที่พักอาศัยของผู้ต้องหาตามหมายสถานที่เชื่อว่ามีการชุกช่อนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่, พะเยา, สุโขทัย และลำปาง รวม 9 จุด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้จำนวน 3 ราย พร้อมทั้งตรวจยึดสิ่งของคล้ายโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ รวมจำนวนกว่า 1,000 ชิ้น นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 ให้การปฏิเสธ
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัยประชาชน กรณีพบเจอสิ่งของคล้ายโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุ ขอให้ท่านนำส่งกรมศิลปากร เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ไม่ควรยึดถือไว้เป็นของตน เนื่องจาก
ตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มาตรา 24″โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่ช่อน หรือฝัง หรือทอดทิ้งไว้ในราชอาณาจักร ให้ตกเป็นทรัพย์สินของ
แผ่นดิน” และสำหรับผู้ใดที่ลักลอบขุด ค้นหา โบราณวัตถุตามสถานที่ต่างๆ เพื่อนำไปประกาศขาย รวมไป
ถึงผู้รับซื้อโบราณวัตถุต่างๆ จะถือว่าเป็นผู้กระทำความผิด มีโทษตามกฎหมาย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป. 093-318-9090