วันพุธ, พฤศจิกายน 26, 2025
หน้าแรกการเมืองสืบการเมือง‘สงครามโลก’ จ่อปะทุ! แฉ “แผนลับยึดชาติไทย”

Related Posts

‘สงครามโลก’ จ่อปะทุ! แฉ “แผนลับยึดชาติไทย”

“…เสียงเตือนจากหน้าประวัติศาสตร์กำลังดังก้อง หรือเรากำลังยืนอยู่บนปากเหวของสงครามโลกครั้งที่ 3 โดยไม่รู้ตัว? เมื่อความขัดแย้งของมหาอำนาจโลกไม่ได้อยู่แค่ในตำรา แต่กำลังคืบคลานเข้าประชิดรั้วบ้าน ผ่านยุทธศาสตร์ปิดล้อมจีนและการสั่งสมอาวุธนิวเคลียร์ที่พร้อม “ล้างโลก” ได้ทุกเมื่อ แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าขีปนาวุธ อาจไม่ใช่ศัตรูที่มองเห็น แต่เป็น “หนอนบ่อนไส้” และ “ขบวนการฟอกเงินข้ามชาติ” ที่แฝงตัวเข้ามาในรูปแบบของนักบุญทุนหนา เตรียมใช้เงินสกปรกซื้อประเทศไทยผ่านคูหาเลือกตั้ง! วันนี้ “สืบจากข่าว” จะพาคุณไปแกะรอยบทวิเคราะห์สุดเดือดจาก พลเอกรังษี กิตติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ ที่จะมากระชากหน้ากากภัยคุกคามทั้งในและนอกประเทศ ที่คุณอาจคาดไม่ถึง!…”

ท่ามกลางกระแสข่าวรายวันที่ฉาบฉวย เบื้องหลังฉากทัศน์การเมืองโลกและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังก่อตัวเป็นพายุลูกใหญ่ที่ไทยไม่อาจหลีกเลี่ยง บทสนทนาที่ดูเหมือนเรื่องไกลตัวระหว่างสื่อมวลชนกับ พล.อ.รังษี กิตติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ ได้เปิดเผยชุดข้อมูลที่ชวนให้สังคมต้องหยุดคิด และตั้งคำถามถึงความมั่นคงของชาติในระดับ “วิกฤต”

เดิมพันมหาอำนาจ:

เมื่อ “ไต้หวัน” คือชนวน และ “ไทย” คือหมากในกระดาน ประเด็นร้อนแรงที่สุดหนีไม่พ้นความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน ที่ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เริ่มขยับตัวแรงจนผิดสังเกต

พล.อ.รังษี ชี้ให้เห็นว่า จีนถือ “ไต้หวัน” เป็นเส้นยาแดงผ่าแปดที่ห้ามใครแตะต้อง ตามหลักการ One China Policy แต่เบื้องลึกของการที่สหรัฐฯ ต้องเข้ามา “แบ็กอัพ” ไต้หวัน ไม่ใช่แค่เรื่องประชาธิปไตย แต่คือผลประโยชน์มหาศาลจาก “ชิปและเซมิคอนดักเตอร์” 40% ที่ป้อนเข้าสู่สหรัฐฯ

“สงครามโลกครั้งที่ 3 อาจเกิดขึ้นภายในปี 2570”

นี่คือคำเตือนที่ไม่ได้มาจากการนั่งเทียน แต่มาจากการวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ “อินโด-แปซิฟิก” ของสหรัฐฯ ที่ต้องการปิดล้อมจีน และการสะสมอาวุธของทั้งสองขั้วอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งขีปนาวุธในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ หรือการเคลื่อนไหวใน ลาว กัมพูชา และพม่า

คำถามคือ… หากมหาอำนาจปะทะกันจริงด้วยอาวุธนิวเคลียร์เพื่อ “ล้างไพ่” ประเทศไทยที่มีความสัมพันธ์กับทั้งสองฝ่าย จะวางตัวอย่างไรให้รอดพ้นหายนะ?

ผู้นำของไทยคนต่อไป ต้องเป็น “นักเจรจา” ที่อ่านเกมโลกขาด ไม่เช่นนั้นเราอาจเป็นเพียงสนามรบของคนอื่น

ภัยเงียบชายแดน: กัมพูชา แผนซ้อนแผน และดินแดนที่หายไป?

ขยับเข้ามาใกล้บ้าน สัญญาณอันตรายจากชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ดูเหมือนจะ “ซา” ลงไป แท้จริงแล้วอาจเป็นเพียงคลื่นใต้น้ำ พล.อ.รังษี ตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติทางทหาร ทั้งการไม่ยอมกู้ทุ่นระเบิด การเคลื่อนย้ายกำลังพลเข้าสู่จุดยุทธศาสตร์ และการมี “มือที่สาม-ที่สี่” เข้ามาหนุนหลังเพื่อนบ้านของเรา

สิ่งที่น่าตกใจคือการเปิดประเด็นเรื่อง สแกมเมอร์ครองเมือง” ฐานปฏิบัติการหลอกลวงต้มตุ๋นที่ตั้งอยู่ประชิดชายแดน ไม่ได้เป็นเพียงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ธรรมดา แต่กำลังกลายเป็นท่อน้ำเลี้ยงขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลในไทยหรือไม่?

เงินสีเทาเหล่านี้กำลังไหลกลับเข้ามาทำร้ายเรา ผ่านเจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริตและการสมคบคิดระดับชาติ

แฉแผนยึดสภาฯ: ทุนสแกมเมอร์ สู่การซื้อประเทศ?

นี่คือส่วนที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด พล.อ.รังษี ได้กางตัวเลขที่ชวนขนลุก หากกลุ่มทุนสีเทาหรือ “สแกมเมอร์” ต้องการฟอกตัวและยึดอำนาจรัฐ พวกเขาอาจใช้เงินเพียง 20,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นแค่เศษเงินของธุรกิจผิดกฎหมาย – เพื่อ “ทุ่มซื้อเสียง” เข้าสู่สภาฯ

ลองคิดตาม… หากมีการใช้เงิน 50 ล้านบาทต่อหัว เพื่อกวาดต้อน ส.ส. เข้าสภาฯ ให้ได้ 250 เสียงเบ็ดเสร็จ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ “รัฐบาลนอมินี” ที่ไม่ได้ทำงานเพื่อประชาชน แต่เข้ามาเพื่อแก้กฎหมาย ฟอกเงิน และเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนข้ามชาติ

หากถึงจุดนั้น ประเทศไทยจะไม่ต่างอะไรกับ “รัฐที่ล้มเหลว” (Failed State) ที่กฎหมายไร้ความศักดิ์สิทธิ์

ทางออกสุดท้าย: ยาแรง “ประหารชีวิต” คนโกง?

ในสภาวะวิกฤตที่กัดกินไปทุกหย่อมหญ้า พล.อ.รังษี เสนอทางออกที่ฟังดู “สุดโต่ง” แต่ท้าทายสังคม นั่นคือการใช้ยาแรงจัดการกับปัญหาคอร์รัปชัน นโยบาย “โกง = ประหาร” ถูกหยิบยกขึ้นมา ไม่ใช่แค่สโลแกนขายฝัน แต่รวมถึงการเอาผิด มาตรา 157 (ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่) ให้มีโทษถึงตาย

ถ้าระบบต้นน้ำคือตำรวจ และปลายน้ำคือราชทัณฑ์ ยังเละเทะแบบนี้ ใครจะกล้ามาลงทุน?” นี่คือคำถามที่ตบหน้ากระบวนการยุติธรรมไทยฉาดใหญ่ พร้อมข้อเสนออภิมหาโปรเจกต์ 2 โครงการใหญ่เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่กำลังจะพังทลาย

วันนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญศึกรอบด้าน ศึกนอกคือสงครามมหาอำนาจที่พร้อมระเบิด ศึกในคือสนิมเนื้อในตนจากข้าราชการกังฉินและทุนสีเทาที่จ้องจะกลืนกินประเทศ การเลือกตั้งครั้งหน้า (ปี 69-70) อาจไม่ใช่แค่การเลือกพรรคที่ชอบ แต่คือการ “กู้ชาติ” จากวงจรอุบาทว์

สังคมไทยพร้อมหรือยัง ที่จะตื่นรู้และหยุดขายสิทธิ์ขายเสียง หรือเราจะปล่อยให้เงินสกปรกจากสแกมเมอร์ เข้ามาเขียนอนาคตของลูกหลานเรา? …คำตอบอยู่ที่ปลายนิ้วของคุณ.

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts