“….การตื่นตัวทางปัญญาของมวลมนุษยชาติเกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา ส่งผลมาถึงสังคมโลกยุคใหม่และกำลังเดินหน้าไปสู่อนาคต การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงทางความคิดครั้งยิ่งใหญ่ในยุโรป นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงมากมาย ปูทางให้แก่การผงาดขึ้นของโลกทุนนิยมที่ครอบงำโลกแบบเบ็ดเสร็จร่วมสองร้อยปี แต่การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนขึ้นอย่างเป็นทางการในปี คศ.1921 พรรคปฏิวัติที่มีอุดมการณ์ยิ่งใหญ่ มุ่งปลดปล่อยมวลมนุษยชาติให้หลุดพ้นจากความทุกข์ยาก ก็ได้พัฒนาตนเองขึ้นเป็นผู้นำการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บนผืนแผ่นดินจีน สร้างปาฏิหาริย์ครั้งแล้วครั้งเล่า จนกลายเป็นมหาอำนาจยุคใหม่ล้ำหน้าโลกทุนนิยม และกำลังกลายเป็นแบบอย่างให้แก่การพัฒนาประเทศของประเทศต่างๆ ทั่วโลก เมื่อโลกทุนนิยมตะวันตกทำได้เพียงแค่การเปลี่ยนแปลงเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ไม่หยุดยั้งการเอารัดเอาเปรียบคนทั้งโลก ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องเปิดทางให้จีนก้าวขึ้นมาแสดงบทบาทเป็นแกนนำ พาชาวโลกไปสู่อนาคตร่วมกัน ซึ่งก็รวมถึงชาวยุโรป อเมริกัน ญี่ปุ่นด้วย…”
ตอน ปัญญาพารอดและรุ่ง 智慧取胜
โลกมนุษย์หมุนรอบดวงอาทิตย์ครบอีกหนึ่งรอบ นับตามปฏิทินสากลย่างเข้าปี 2024 แต่ถ้านับตามวัฏจักรธรรมชาติ มนุษยชาติ ก็เคลื่อนคล้อยมานานนับล้านปี
มนุษย์เรามาถึงวันนี้ ผ่านขั้นตอนต่างๆ มานับไม่ถ้วน ตั้งแต่ฟันฝ่าอุปสรรคความยากลำบากในการดำรงชีวิต ทั้งจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ตนอาศัยอยู่ และจากการกระทบกระทั่งขัดแย้งแย่งชิงกันในเรื่องต่างๆ ระหว่างชนเผ่า ดำเนินชีวิตมาได้อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งทุกวันนี้
อะไรคือตัวนำร่องเส้นทางชีวิตของมนุษย์เรา ?
สติปัญญานั่นเอง
มนุษย์ในแต่ละยุคสมัยเอาตัวรอดจากวิกฤตได้ทุกครั้ง เพราะสามารถประมวลความรับรู้จากชีวิตจริง สรุปขึ้นมาเป็นแนวคิดชี้นำ สร้างจิตใจที่ใหญ่ขึ้น เกิดภูมิปัญญาที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จนกระทั่งสามารถร่วมกันฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคที่ยุ่งยากสลับซับซ้อนได้โดยตลอด แล้วพัฒนาก้าวหน้ามาเรื่อยๆ ได้อย่างไม่ขาดสาย
นี่คือเส้นทางสายใหญ่สายหลักของมวลมนุษย์ที่ถูกต้องเพียงหนึ่งเดียว ที่จะพาตนเองผ่านพ้นวิกฤตและก้าวรุดหน้าไปได้อย่างยาวนาน
การตื่นตัวทางปัญญาของมวลมนุษยชาติเกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา เช่น การเกิดขึ้นของศาสนาและปรัชญาโบราณสำคัญๆ ของโลก ที่ยังส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งในหลายๆ แห่งทั่วโลก แต่การตื่นตัวทางปัญญาที่ส่งผลมาถึงสังคมโลกยุคใหม่และกำลังเดินหน้าไปสู่อนาคต ก็คือการรณรงค์ฟื้นฟูศิลปะวิทยาการและการสร้างความตื่นรู้ที่ดำเนินต่อเนื่องตั้งแต่ศตวรรษที่ 14-17 ทำให้เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงทางความคิดครั้งยิ่งใหญ่ในยุโรป นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม ปูทางให้แก่การผงาดขึ้นของโลกทุนนิยมที่ครอบงำโลกแบบเบ็ดเสร็จร่วมสองร้อยปี
อีกเหตุการณ์หนึ่งที่กำลังส่งผลยาวไกลและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ การเคลื่อนไหว “4 พฤษภาคม” คศ.1919 ของเยาวชนนักศึกษาที่รักชาติ ได้จุดประกายความรักชาติให้แก่คนจีนทั้งประเทศ พากันลุกขึ้นมาต่อต้านอำนาจครอบงำของมหาอำนาจตะวันตกและญี่ปุ่น มีการจัดตั้งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองกันทั่วไป ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะคือ การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนขึ้นอย่างเป็นทางการในปี คศ.1921 และภายหลังจากได้รับชัยชนะเหนือแผ่นดินใหญ่จีนแล้ว พรรคปฏิวัติที่มีอุดมการณ์ยิ่งใหญ่ มุ่งปลดปล่อยมวลมนุษยชาติให้หลุดพ้นจากความทุกข์ยาก ก็ได้พัฒนาตนเองขึ้นเป็นผู้นำการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บนผืนแผ่นดินจีน สร้างปาฏิหาริย์ครั้งแล้วครั้งเล่า จนกลายเป็นมหาอำนาจยุคใหม่ล้ำหน้าโลกทุนนิยม และกำลังกลายเป็นแบบอย่างให้แก่การพัฒนาประเทศของประเทศต่างๆ ทั่วโลก
เราคงไม่ต้องสงสัยอะไรต่อไปอีกแล้วว่า มนุษย์เราจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ อดีตกาลอันเนิ่นนานได้บอกเราแล้วว่า มนุษย์เราเอาตัวรอดได้เสมอ และยิ่งกว่านั้น มนุษย์เรายังสามารถพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้เสมอเช่นเดียวกัน
เมื่อโลกทุนนิยมตะวันตกทำได้เพียงแค่การเปลี่ยนแปลงเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ไม่หยุดยั้งการเอารัดเอาเปรียบคนทั้งโลก ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องเปิดทางให้จีนก้าวขึ้นมาแสดงบทบาทเป็นแกนนำ พาชาวโลกไปสู่อนาคตร่วมกัน ซึ่งก็รวมถึงชาวยุโรป อเมริกัน และญี่ปุ่นด้วย
ในโลกยุคไร้พรมแดนที่สังคมโลกก้าวเข้าสู่ยุคทันสมัยถ้วนหน้า ภูมิปัญญาใหญ่ที่สะท้อนทิศทางการขับเคลื่อนของสังคมโลกโดยรวม ย่อมเป็นที่ยึดมั่นของชาวโลกที่มีชะตากรรมร่วมกันได้ไม่ยาก
ใครที่ยังคิดขัดขวางก็คงต้องปลงให้ตก และจงภูมิใจว่ามนุษย์มีปัญญามากพอที่จะพาตัวเองรอดและรุ่งได้เสมอ