วันอังคาร, กันยายน 17, 2024
หน้าแรกคอลัมนิสต์สันติ ตั้งรพีพากร 陈俊泰 อัจฉริยะ “ยอดคน” ยอดผู้นำจีน “พาจีน” ผงาดเจ้าโลก 5 คน “เพื่อ” สัจธรรมหนึ่งเดียว

Related Posts

 อัจฉริยะ “ยอดคน” ยอดผู้นำจีน “พาจีน” ผงาดเจ้าโลก 5 คน “เพื่อ” สัจธรรมหนึ่งเดียว

@suebjarkkhao

จับทางจีน-5อัจฉริยะจีน

♬ เสียงต้นฉบับ – Suebjarkkhao – Suebjarkkhao

“…เหมาเจ๋อตง – เติ้งเสี่ยวผิง – เจียงเจ๋อหมิน -หูจิ่นเทา- สีจิ้นผิง  ใช้หลักการจับคู่ความขัดแย้งหลักมาแก้ปัญหาอุปสรรคในการทำงาน ด้วยการปฏิบัติอันเป็นสัจธรรมเพียงหนึ่งเดียวที่ชาวคอมมิวนิสต์จีนยึดถือ ผลักดันให้จีนกลายเป็นศูนย์รวมของวิทยาการยุคใหม่อย่างรวดเร็ว สภาพแวดล้อมสะอาดสะอ้าน สวยงามน่าอยู่ และเต็มไปธุรกิจบริการที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินชีวิตที่ล้ำหน้ายิ่งกว่าประเทศอุตสาหกรรมตะวันตกด้วยซ้ำ ซึ่งอีกด้านหนึ่งก็เร่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีระดับแนวหน้าของโลก ตีฝ่าวงล้อมอำนาจอิทธิพลของฝ่ายตะวันตก โดยเฉพาะคือสหรัฐอเมริกาจนประสบความสำเร็จ…”

จับทางจีน 正视中
สันติ ตั้งรพีพากร 陈俊泰
สัจธรรมหนึ่งเดียว 唯一真理

จุดเด่นและน่าจะเป็นจุดแข็งที่สุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็คือการไม่ยึดติดกับความเชื่อใดๆ หากแต่มุ่งมั่นทำการปฏิบัติเพื่อเข้าถึงแก่นแท้ของสิ่งที่กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่นั้น แล้วกำหนดเป็นแนวคิดทฤษฎีขึ้นมาชี้นำการปฏิบัติต่อไป

เหมาเจ๋อตงเป็นผู้เข้าถึงแก่นแท้ของการปฏิวัติประเทศจีน ได้สรุปขึ้นมาเป็นทฤษฎีสงครามประชาชน ดำเนินการต่อสู้อย่างต่อเนื่องจนประสบชัยชนะ

เติ้งเสี่ยวผิงเข้าถึงแก่นแท้ของการสร้างชาติ สรุปออกมาเป็นทฤษฎีเติ้งเสี่ยวผิง ดำเนินการพัฒนาประเทศจีนจนเจริญรุ่งเรือง

เจียงเจ๋อหมินเข้าถึงแก่นแท้ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในห้วงที่คนจีนเริ่มมีความมั่งคั่ง ได้สรุปออกมาเป็นทฤษฎี 3 ตัวแทน และหูจิ่นเทาได้เข้าถึงแก่นแท้ของการพัฒนาประเทศยุคใหม่ ก็ได้สรุปออกมาเป็นทฤษฎีการพัฒนาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์

เมื่อมาถึงยุคสีจิ้นผิง พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้ทำการยกระดับนวัตกรรมทางความคิดทฤษฎีครั้งใหญ่ โดยได้ประมวลองค์ความรู้ที่สะท้อนแก่นแท้ของการพัฒนาของสังคมโลกโดยรวมขึ้นมาเป็นแนวคิดทฤษฎีที่มุ่งสู่การแก้ปัญหาการพัฒนาโดยรวมของมวลมนุษยชาติโดยเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตชาวจีนทั้งประเทศเป็นตัวตั้ง

ปัญญาอยู่ที่ว่า ในการเข้าถึงแก่นแท้ของปัญหาหรืออุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาก้าวหน้านั้น จะเข้าถึงได้อย่างไร ?

คำตอบที่กลายเป็นความรู้ทั่วไปในหมู่ผู้ปฏิบัติงานของพรรคคอมมิวนิสต์จีนแล้วก็คือ คุณจะต้องจับคู่ขัดแย้งหลักให้ได้ในท่ามกลางการปฏิบัติ

เหมาเจ๋อตงเข้าถึงแก่นแท้ของการปฏิวัติจีน เพราะสามารถรับรู้ถึงความขัดแย้งระหว่างประชาชาติจีนทั้งมวลฝ่ายหนึ่งกับจักรพรรดินิยม ศักดินานิยมกับทุนขุนนางอีกฝ่ายหนึ่ง ดังนั้นแนวทางการต่อสู้จึงต้องสามัคคีมวลชนทุกระดับที่รักชาติรักประชาธิปไตย มาร่วมกันโค่นล้ม “ภูเขา 3 ลูก” นี้

เมื่อเข้าสู่ระยะของการพัฒนาประเทศ คู่ความขัดแย้งหลักที่เติ้งเสี่ยวผิงจับได้ก็คือความล้าหลังทางด้านเศรษฐกิจการผลิตของจีนกับความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของโลกทุนนิยม จำเป็นจะต้องเปิดประเทศรับทุนและเทคโนโลยีตะวันตก เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจจีน โดยชูคำขวัญว่า วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเป็นพลังการผลิตอันดับหนึ่ง

สำหรับเจียงเจ๋อหมินและหูจิ่นเทานั้นก็ได้ดำเนินแนวนโยบายตามหลักทฤษฎีเติ้งเสี่ยวผิง เพียงแต่เสริมเพิ่มความเข้าใจในบทบาทของพรรคฯและระดับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมให้มีลักษณะรอบด้านยิ่งขึ้น

แต่เมื่อเข้าสู่ยุคสีจิ้นผิง ก็ได้ทำการยกระดับจับคู่ความขัดแย้งหลักครั้งใหญ่ เป้าหมายคือเพื่อให้ประเทศจีนบรรลุสู่ความเจริญรุ่งเรืองระดับโลกอย่างแท้จริงในกลางศตวรรษที่ 21 นี้ ด้านหนึ่งเร่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีระดับแนวหน้าของโลก อีกด้านหนึ่งตีฝ่าวงล้อมอำนาจอิทธิพลของฝ่ายตะวันตก โดยเฉพาะคือสหรัฐอเมริกา ขณะที่ภายในประเทศก็จับคู่ขัดแย้งหลักเป็นความขัดแย้งระหว่างความต้องการที่จะมีคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้นของประชาชนกับระดับมาตรฐานการผลิตโดยรวมของชาติ ตลอดจนการสร้างสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศน์ที่สะอาดสวยงามน่าอยู่น่าอาศัย

ผลของการปรับโครงสร้างการผลิตจากปริมาณเป็นคุณภาพสูง ผลักดันให้จีนกลายเป็นศูนย์รวมของวิทยาการยุคใหม่อย่างรวดเร็ว สภาพแวดล้อมสะอาดสะอ้าน สวยงามน่าอยู่ และเต็มไปธุรกิจบริการที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินชีวิตที่ล้ำหน้ายิ่งกว่าประเทศอุตสาหกรรมตะวันตกด้วยซ้ำ

ตัวอย่างหนึ่งของการจับคู่ความขัดแย้งหลักมาแก้ปัญหาอุปสรรคในการทำงาน ก็คือการแก้ปัญหาการเวนคืนที่ดินสำหรับก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจาร์กาตา-บันดุง เมื่อชาวบ้านไม่ยอม ทำให้การเวนคืนไม่คืบหน้า ปมปัญหาอยู่ที่ชาวบ้านยังไม่เห็นคุณค่าของโครงการ  ดังนั้นฝ่ายก่อสร้างจึงเสนอให้ขาวบ้านส่งตัวแทนของพวกเขาเดินทางไปประเทศจีน นั่งรถไฟความเร็วสูงจากกว่างโจวไปปักกิ่ง และนั่งจากปักกิ่งมาเซี่ยงไฮ้ จึงได้พากันตระหนักถึงความสะดวกสบายของการคมนาคมชั้นนำของโลกด้วยตนเอง เมื่อกลับถึงอินโดนีเซียแล้วก็ชี้ชวนให้เพื่อนบ้านยินยอมเวนคืนที่ดิน จนกระทั่งทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี จนสามารถเปิดให้บริการได้อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้

เกือบร้อยปีแล้วที่พรรคฯจีนยึดมั่นในหลักปรัชญาลัทธิมาร์กซ์ที่ว่าสรรพสิ่งล้วนขับเคลื่อนไปด้วยพลังของความขัดแย้งภายใน และเมื่อใดที่คนเราเข้าถึงความขัดแย้งนี้ ก็จะสามารถเร่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงให้สำเร็จโดยไว ซึ่งการเข้าถึงเช่นว่านี้ จะมีเพียงช่องทางเดียวคือการปฏิบัติ

ดังนั้น ตั้งแต่ยุคเหมาเจ๋อตงเป็นต้นมา การปฏิบัติจึงเป็นสัจธรรมเพียงหนึ่งเดียวที่ชาวคอมมิวนิสต์จีนยึดถือ

ไขคำจีน 真理 เจินหลี่ สัจธรรม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts