วันจันทร์, พฤษภาคม 20, 2024

Related Posts

แก่นแท้ของปัญญา 智慧的核心

“….ในรอบร้อยปีของพรรคฯจีนและเจ็ดสิบกว่าปีของการสร้างชาติ กระบวนการลักษณะนี้เกิดขึ้นสามครั้ง ในทุกช่วงของการขับเคลื่อนจะต้องรวมกำลังกันแก้ปัญหาใหญ่ที่เป็นปมเงื่อนให้ตกไปให้ได้ ด้วยมาตรการที่ถูกต้อง จีนดำเนินแนวนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจจีนอย่างสอดคล้องกับการขับเคลื่อนของกระแสสังคมโลกที่ก้าวเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ นำเสนอทฤษฎีสังคมนิยมอัตลักษณ์จีนอย่างกล้าหาญ เดินหน้าเต็มที่ ไม่ต้องกลัวความล้มเหลว ทุกอย่างจะวัดกันที่ผลการปฏิบัติ โดยเขาได้สรุปสั้นๆว่า จะต้องกล้าข้ามห้วยที่ไม่เคยข้าม แม้จะต้องข้ามไปแบบคลำหินในสายน้ำนั้นไปทีละก้อนๆ ฉันใดก็ฉันนั้น ภูมิปัญญาของเติ้งเสี่ยวผิงต่อยอดจากภูมิปัญญาเหมาเจ๋อตง มาวันนี้ ภูมิปัญญาสีจิ้นผิงก็ต่อยอดมาจากเติ้งเสี่ยวผิงอีกทีหนึ่ง ด้วยการเดินหน้าเปิดประเทศ ชูธงโลกาภิวัตน์สูงเด่นยิ่งขึ้นด้วยแนวคิด “โลกทั้งผองมาสร้างอนาคตร่วมกัน ผลึกทางปัญญาที่รองรับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่นี้ก็คือ การ”หาสัจจะจากความเป็นจริง…”

แก่นแท้ของปัญญา 智慧的核心

ประวัติศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า จีนก้าวหน้ามาได้ด้วยการนำที่ถูกต้องและการบริหารจัดการที่ทรงประสิทธิภาพ แต่ลึกลงไปในนั้นมีสิ่งที่เราจะต้องเข้าถึงก็คือ ทำอย่างไรการนำจึงถูกต้องและทำอย่างไรจึงทำได้สำเร็จตามเป้าหมาย?

สำหรับคณะผู้นำจีนแล้ว พวกเขาได้ข้อสรุปจากการปฏิบัติทั้งในช่วงสงครามปฏิวัติและการสร้างสรรค์สังคมนิยมพัฒนาสร้างชาติ จนได้หลักยึดพื้นฐานร่วมกันว่า ในทุกช่วงของการขับเคลื่อนจะต้องรวมกำลังกันแก้ปัญหาใหญ่ที่เป็นปมเงื่อนให้ตกไปให้ได้ ด้วยมาตรการที่ถูกต้อง

ในทางทฤษฎีก็คือจะต้องเข้าถึงความขัดแย้งหลักและรวมกำลังทุกฝ่ายเข้าแก้ไขความขัดแย้งนั้นให้ตกไป และเมื่อแก้ไขปัญหาใหญ่นั้นตกไปแล้ว ก็เลื่อนความสนใจมายังปัญหาใหม่ที่เป็นปัญหาอุปสรรคขัดขวางสำคัญที่สุด ซึ่งจะค้นพบได้ท่ามกลางการปฏิบัติ

ในรอบร้อยปีของพรรคฯจีนและเจ็ดสิบกว่าปีของการสร้างชาติ กระบวนการลักษณะนี้เกิดขึ้นสามครั้ง ซึ่งนับเป็นกรณีศึกษาที่นักการเมืองหรือผู้นำการบริหารทุกระดับชั้นต้องทำความเข้าใจ

ครั้งที่หนึ่ง ในห้วงสงครามปฏิวัติ มีการลุกขึ้นสู้หลายครั้งก่อนหน้าจะเกิดพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเมื่อก่อตั้งพรรคขึ้นมาแล้วก็มีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการต่อสู้อีกหลายครั้ง โดยพยายามสามัคคีทุกฝ่าย แต่ในที่สุดก็ลงเอยที่การก่อตั้งกองทัพปฏิวัติภายใต้การนำของพรรคฯ หลังจากนั้นการนำก็ยังคงกวัดแกว่งไม่ชัดเจนว่าจะดำเนินไปแบบไหน เมื่อคณะผู้นำขาดความเป็นเอกภาพทางความคิด ยึดติดกับตำราและคำชี้แนะจากองค์กรนานาชาติ

ต่อหน้าวิกฤตใหญ่ที่ชี้เป็นชี้ตายต่อภารกิจกู้ชาติ สุดท้ายจึงได้ลงเอยที่การประชุมคณะกรมการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคฯครั้งประวัติศาสตร์ที่เมืองจุนอี้ต้นปี คศ.1935 โดยที่ประชุมลงมติรับรองแนวทางการต่อสู้ของ เหมา เจ๋อตง และเลือก เหมา เจ๋อตงขึ้นเป็นผู้นำพรรคฯ

เหมา เจ๋อตง

หลังจากนั้นการต่อสู้ปฏิวัติทั่วทั้งแผ่นดินจีนก็ได้ดำเนินไปอย่างคึกคัก สามารถฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย ต่อสู้เอาชนะและปลดปล่อยประเทศจีนได้สำเร็จ

ผลึกทางปัญญาที่รองรับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่นี้ก็คือ การ “หาสัจจะจากความเป็นจริง”(实事求是)ทุกอย่างต้องเริ่มจากความเป็นจริง จับปัญหาปมเงื่อนหรือความขัดแย้งหลักออกมาให้ได้ แล้วกำหนดแนวทางปฏิบัติแก้ไขที่สอดคล้องกับความเป็นจริงที่สุด เอื้อต่อการระดมสรรพกำลังเข้าสู่สมรภูมิการต่อสู้ได้มากที่สุด สามารถขยายแนวร่วมทั้งในและต่างประเทศได้อย่างกว้างขวางที่สุด

เมื่อทำได้เช่นนั้น อะไรที่เรียกว่ายากก็จะไม่ยาก อะไรที่เรียกว่าเป็นไปไม่ได้ก็จะเป็นไปได้ ทุกอย่างจะอุบัติขึ้นได้ดุจปาฏิหาริย์

ผลึกทางปัญญานี้ได้รับการสืบทอดเป็นมรดกทางปัญญามาจนถึงปัจจุบันนี้

มีสถานภาพเป็นรากแก้วทางปัญญาของพรรคฯจีนและสังคมจีน

โดยรวมอย่างปราศจากข้อโต้แย้งใดๆ

รากแก้วทางปัญญาที่หยั่งลึกมาตั้งแต่ยุคเหมาเจ๋อตงได้นำร่องมาสู่การเกิดปัญญาใหญ่ในยุคเติ้งเสี่ยวผิง โดยภายหลังจากแกัไขปัญหาวุ่นวายในปลายทศวรรษ 1970  แล้ว เติ้งเสี่ยวผิงก็นำพรรคฯจีนดำเนินแนวนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจจีนอย่างสอดคล้องกับการขับเคลื่อนของกระแสสังคมโลกที่ก้าวเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ นำเสนอทฤษฎีสังคมนิยมอัตลักษณ์จีนอย่างกล้าหาญ

ซึ่งต้องเผชิญกับข้อโต้แย้งขัดขวางจากกลุ่มแกนนำพรรคบางส่วนอย่างรุนแรง

แต่ด้วยความยึดมั่นในหลัก “หาสัจจะจากความเป็นจริง” ของ เหมา เจ๋อตง เขาจึงได้ชูธง”ปลดปล่อยความคิด หาสัจจะจากความเป็นจริง “และหลักการที่ว่า” การปฏิบัติเป็นมาตรฐานเพียงหนึ่งเดียวในการวัดความถูกต้องของสัจธรรม“(实践是检验真理的唯一标准)นั่นคือจะทำอะไรก็ทำไปถ้าคิดว่าดีแล้ว เมื่อถกเถียงกันจนได้ข้อสรุปแล้วก็เดินหน้าเต็มที่ ไม่ต้องกลัวความล้มเหลว ทุกอย่างจะวัดกันที่ผลการปฏิบัติ โดยเขาได้สรุปสั้นๆว่า จะต้องกล้าข้ามห้วยที่ไม่เคยข้าม แม้จะต้องข้ามไปแบบคลำหินในสายน้ำนั้นไปทีละก้อนๆ (摸着石头过河)

ด้วยแนวคิดชี้นำของเติ้งเสี่ยวผิงนี้เอง จีนในระบอบสังคมนิยม จึงเปิดอ้ารับการทะลักเข้าของทุนต่างประเทศ เชื่อมโยงจีนเข้ากับระบบโลก และกลายเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนกระแสโลกาภิวัตน์ ตลอดจนการก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำการขับเคลื่อนของกระบวนการโลกาภิวัตน์

อย่างมีนัยสำคัญในแทบทุกด้านดังที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้

ฉันใดก็ฉันนั้น ภูมิปัญญาของเติ้งเสี่ยวผิงต่อยอดจากภูมิปัญญาเหมาเจ๋อตง มาวันนี้ ภูมิปัญญาสีจิ้นผิงก็ต่อยอดมาจากเติ้งเสี่ยวผิงอีกทีหนึ่ง ด้วยการเดินหน้าเปิดประเทศ ชูธงโลกาภิวัตน์สูงเด่นยิ่งขึ้นด้วยแนวคิด “โลกทั้งผองมาสร้างอนาคตร่วมกัน”(共建人类命运共同体)

มาถึงวันนี้ ข้อเสนอริเริ่มต่างๆของจีนกำลังได้รับการขานรับมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสอดคล้องกับความเป็นจริงและตรงกับความเรียกร้องต้องการของชาวโลกโดยรวม

ก่อนจบข้อเขียนที่ยาวเป็นพิเศษนี้ ผู้เขียนขอย้ำถึงคุณสมบัติของนักการเมืองยุคใหม่ของไทยว่า ไม่ว่าคุณจะมีที่มาแบบไหนอย่างไร ขอเพียงแค่คุณสามารถปรับตัวเอง จัดตัวเองเข้าไปอยู่ในขบวนแถวของผู้ที่ยึดมั่นในความเป็นจริง กำหนดแนวคิดให้สอดคล้องกับความเป็นจริง แล้วเดินหน้าปฏิบัติอย่างถึงที่สุด โดยไม่กลัวความพ่ายแพ้หรือล้มเหลว เมื่อนั้นคุณก็ได้ชื่อว่า เป็นนักการเมืองน้ำดีแล้ว และชัยชนะก็จะเป็นของคุณและพรรคการเมืองของคุณในที่สุด ประเทศชาติจะได้ก้าวหน้า ประชาชนจะลืมตาอ้าปากได้อย่างแท้จริง ก็ด้วยฝีมือของพวกคุณ ที่จะไม่มีคำว่า”กลัว”ใดๆ เพราะพร้อมที่จะพิสูจน์ทุกอย่างที่ผลการ”ปฏิบัติ”!

ไขคำจีน

核心 เหอซิน แก่นแท้

@suebjarkkhao

“….ในรอบร้อยปีของพรรคฯจีนและเจ็ดสิบกว่าปีของการสร้างชาติ กระบวนการลักษณะนี้เกิดขึ้นสามครั้ง ในทุกช่วงของการขับเคลื่อนจะต้องรวมกำลังกันแก้ปัญหาใหญ่ที่เป็นปมเงื่อนให้ตกไปให้ได้ ด้วยมาตรการที่ถูกต้อง จีนดำเนินแนวนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจจีนอย่างสอดคล้องกับการขับเคลื่อนของกระแสสังคมโลกที่ก้าวเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ นำเสนอทฤษฎีสังคมนิยมอัตลักษณ์จีนอย่างกล้าหาญ เดินหน้าเต็มที่ ไม่ต้องกลัวความล้มเหลว ทุกอย่างจะวัดกันที่ผลการปฏิบัติ โดยเขาได้สรุปสั้นๆว่า จะต้องกล้าข้ามห้วยที่ไม่เคยข้าม แม้จะต้องข้ามไปแบบคลำหินในสายน้ำนั้นไปทีละก้อนๆ ฉันใดก็ฉันนั้น ภูมิปัญญาของเติ้งเสี่ยวผิงต่อยอดจากภูมิปัญญาเหมาเจ๋อตง มาวันนี้ ภูมิปัญญาสีจิ้นผิงก็ต่อยอดมาจากเติ้งเสี่ยวผิงอีกทีหนึ่ง ด้วยการเดินหน้าเปิดประเทศ ชูธงโลกาภิวัตน์สูงเด่นยิ่งขึ้นด้วยแนวคิด “โลกทั้งผองมาสร้างอนาคตร่วมกัน ผลึกทางปัญญาที่รองรับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่นี้ก็คือ การ”หาสัจจะจากความเป็นจริง…”

♬ เสียงต้นฉบับ – Suebjarkkhao – Suebjarkkhao

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts