วันศุกร์, พฤศจิกายน 28, 2025

Related Posts

วิกฤตน้ำท่วมใต้!

เมื่อ “สมอง” ผู้มีอำนาจท่วมไม่ถึง? ปล่อยประชาชนลอยคอรอความตาย แฉยับ! อุปกรณ์กู้ชีพกองทัพมีเพียบ ทำไมไม่นำออกมาใช้

ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากท่วมมิดหลังคาเรือนในพื้นที่เศรษฐกิจหลักของภาคใต้ เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือของประชาชนกลับดูเหมือนจะดังไปไม่ถึงหูผู้มีอำนาจในทำเนียบรัฐบาล วินาทีเป็นวินาทีตายที่คนไทยต้องลอยคอรอความหวัง กลับกลายเป็นเพียง “เวทีละครลิง” ของการลงพื้นที่สร้างภาพ คำถามมากมายที่สังคมต้องตบหน้าถามรัฐบาลดังๆ คือ “ของดีมีทำไมไม่ใช้?” เมื่อมีการแฉข้อมูลลึกจากวงในกองทัพว่า ไทยมีเขี้ยวเล็บกู้ภัยระดับโลกจอดทิ้งไว้ให้สนิมเกาะ แต่กลับปล่อยให้ชาวบ้านนั่งรอกล่องข้าวกะเพราไก่บนหลังคา นี่คือความล้มเหลวของการบริหารจัดการ หรือคือความเลือดเย็นของรัฐราชการกันแน่!

ภัยพิบัติซ้ำซาก กับ “สมอง” ที่สั่งการไม่ได้

เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่หาดใหญ่และสงขลาครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ภัยธรรมชาติ แต่มันคือ ภัยจากการบริหาร” ที่ชัดเจนที่สุด นาวาเอก นายแพทย์ พนิต จันทรภักดี แขกรับเชิญพิเศษของ “สืบจากข่าว” ได้กระชากหน้ากากความล้มเหลวของระบบสั่งการ (Command & Control) ออกมาให้เห็นกันจะๆ

ในขณะที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างชาตินับพันชีวิตติดเกาะกลางเมือง ภาพที่เห็นกลับเป็นการระดม “เจ็ตสกี” จากภาคเอกชนและดาราจิตอาสาลงไปช่วย ซึ่งแม้จะน่าชื่นชมในน้ำใจ แต่ในทางยุทธวิธี นี่คือความอับอายของรัฐบาล! เจ็ตสกีคืออุปกรณ์สันทนาการ ไม่ใช่อุปกรณ์กู้ชีพหลักในภาวะวิกฤตที่มีกระแสน้ำเชี่ยวและอันตราย

งบประมาณมหาศาล เบี้ยเลี้ยง การฝึกอบรมข้าราชการเตรียมพร้อมมาทั้งชีวิตเพื่อภารกิจเดียว แต่พอถึงเวลาจริง หายหัวไปไหนกันหมด? ปล่อยให้เอกชนนำหน้า แล้วภาครัฐเดินตามต้อยๆ นี่คือความอัปยศ!”

รถสะเทินน้ำสะเทินบก และ เรือบรรทุกเครื่องบิน “ของจริงที่ถูกลืม”?

ประเด็นที่น่าเจ็บใจที่สุด คือการเปิดเผยว่า กองทัพไทยมี รถสะเทินน้ำสะเทินบก 8×8” ที่ผลิตโดยฝีมือคนไทย (บริษัท ชัยเสรี) ซึ่งมีสมรรถนะสูง วิ่งบนบกได้เร็ว 100 กม./ชม. และลุยน้ำได้ทันทีโดยไม่ต้องรอเรือหางยาว แต่มันกลับถูกจอดไว้เฉยๆ หรือมีไว้แค่โชว์วันเด็ก?

ทำไมนายกรัฐมนตรี หรือ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ถึงไม่สั่งการให้นำยุทโธปกรณ์เหล่านี้ออกมาใช้ตั้งแต่ชั่วโมงแรก? ทำไมต้องรอให้วิกฤตผ่านไป 4-5 วัน?

ยิ่งไปกว่านั้น การจัดการศูนย์อพยพยังเป็นแบบ “ขอไปที” ทั้งที่เรามี เรือหลวงจักรีนฤเบศร” หรือเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ ที่สามารถแปลงสภาพเป็น โรงพยาบาลสนามลอยน้ำ” ได้ทันที เรือเหล่านี้มีทั้งเตียง มีครัว มีระบบผลิตน้ำจืด และสามารถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่อัดแน่นด้วยเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ยังชีพ เข้าถึงพื้นที่ชายฝั่งสงขลาได้ในคืนเดียว

ภาษีทุกบาทที่เราจ่ายไปเพื่อซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ท่านยอมรับได้หรือไม่ ที่มันถูกนำมาใช้เพียงแค่การ “ซ้อมรบ” แต่ในวันที่ประชาชนรบกับความตาย อุปกรณ์เหล่านั้นกลับจอดสนิทนิ่ง?!!!…” หมอพนิตตั้งคำถามด้วยแววตาที่แสนเจ็บปวด

คู่มือรอดตายฉบับ “สืบจากข่าว”: เมื่อรัฐพึ่งไม่ได้ เราต้องรอด!

เมื่อการรอความช่วยเหลือจากรัฐคือความเสี่ยง เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม นาวาเอก นายแพทย์ พนิต ให้คำแนะนำระดับ “Survival” ที่คุณต้องรู้:

  • ตู้คอนเทนเนอร์กู้ชีพ: ข้อเสนอถึงรัฐบาลถึงสิ่งที่ควรทำ คือเตรียมตู้คอนเทนเนอร์ (Emergency Pods) ที่ภายในมีเครื่องปั่นไฟ, ระบบสื่อสารดาวเทียม, เครื่องกรองน้ำพกพา และอาหาร MRE (อาหารพร้อมทานแบบทหาร) วางกระจายไว้ในจุดเสี่ยง พอเกิดเหตุปุ๊บ ยกตู้ลงพื้นที่ปั๊บ จบ!
  • น้ำดื่มฉุกเฉิน: ประชาชนควรหาซื้อ “หลอดกรองน้ำพกพา” (Life Straw) ติดบ้านไว้ ราคาหลักร้อย แต่เปลี่ยนน้ำคลำให้เป็นน้ำกินได้ ยื้อชีวิตในยามติดเกาะ
  • หนีไฟตึกสูง: อย่าตายน้ำตื้น!
    • ตึกแถว: ต้องมี ค้อนปอนด์” ติดบ้าน ทุบกำแพงหนีไปคูหาข้างๆ อย่ามัวหาลูกกุญแจไขเหล็กดัด เพราะควันไฟจะน็อคคุณใน 10 วินาที
    • คอนโดสูง: หากไฟไหม้ชั้นล่างและควันอัดแน่นทางหนีไฟ ให้พิจารณา วิ่งขึ้นดาดฟ้า” (ถ้าโครงสร้างตึกไหว) เพราะที่โล่งด้านบนมีอากาศหายใจ และเป็นจุดรอรับการช่วยเหลือทางอากาศ หรือถ้าจะให้ดี คอนโดควรติดตั้ง ถุงหนีไฟ” (Fire Escape Chute) หรือ บันไดลิง” ไว้บ้าง

สุขภาพหลังน้ำลด: โรคระบาดและ “นิ้วล็อค” ที่คุณคาดไม่ถึง

หลังจากเอาชีวิตรอดจากน้ำท่วม สิ่งที่ตามมาคือ โรคที่มากับดินและน้ำ”

  • โรคเมลิออยโดสิส (Melioidosis): แบคทีเรียกินเนื้อที่มากับน้ำป่าสีแดงขุ่น หากมีบาดแผลต้องระวังถึงชีวิต
  • ความเครียดลงตับ: ปัญหาใหญ่กว่าโรคกายคือ “โรคใจ” ความสิ้นหวังที่หมดตัว อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหมู่
  • ภูมิแพ้อากาศ: อาการฟุดฟิดช่วงอากาศเปลี่ยน ไม่ใช่หวัดเสมอไป แต่อาจเป็นปฏิกิริยาของร่างกายต่อสิ่งแปลกปลอม (Hay Fever) การกินยาแก้แพ้อาจแค่ปลายเหตุ

ไฮไลท์สุขภาพ: เปิดความลับ “นิ้วล็อค”

ใครจะเชื่อว่าอาการ “นิ้วล็อค” ที่ทรมานคนแก่และคนทำงานออฟฟิศ อาจเกิดจาก “การขาดโปรตีน”!

คุณหมอพนิตชี้เป้าว่า การกินโปรตีนให้ถึง โดยเฉพาะจาก “นม” ช่วยได้ แต่ทีเด็ดคือ “นมแพะ” หรือ “นมอูฐ” (ถ้าหาได้) เพราะมีโปรตีนชนิด A2 Beta-Casein ที่ใกล้เคียงนมแม่และไม่ก่อให้เกิดการแพ้เหมือนนมวัวทั่วไป นี่คือเกร็ดความรู้ที่อาจช่วยให้คุณไม่ต้องไปผ่าตัดนิ้ว!

บทสรุป: รัฐบาลต้องตื่น!

วิกฤตครั้งนี้คือบทเรียนราคาแพง (ที่ประชาชนเป็นคนจ่าย) สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทยไม่เคยขาดแคลนทรัพยากร ไม่ขาดแคลนคนเก่ง และไม่ขาดแคลนงบประมาณ แต่สิ่งที่เราขาดแคลนอย่างหนัก คือ “วิสัยทัศน์” และ “ภาวะผู้นำ” ในยามวิกฤต

ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ที่เราจะเลิกบริหารประเทศแบบ “ขายผ้าเอาหน้ารอด” แล้วหันมาสร้างระบบความปลอดภัยที่ “เห็นหัวประชาชน” จริงๆ เสียที!

ท่านผู้อ่านมีความคิดเห็นอย่างไร?

ระหว่าง “รถถัง” ที่ซื้อมาจอด กับ “อุปกรณ์กู้ภัย” ที่ทันสมัย ท่านคิดว่ากองทัพไทยควรจัดลำดับความสำคัญงบประมาณใหม่หรือไม่? ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เพจ “สืบจากข่าว” ครับ!

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts